ไขความลับ ฝึกงานอย่างไรให้ได้ความรู้แบบแม็กซ์ รีบมามุงเร็ว!

ช่วงเวลาปิดเทอมถือเป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดของน้องๆ นักเรียน นักศึกษาทุกคน เพราะจะได้มีเวลาพักผ่อนสมองคลายความเครียดจากการศึกษาเล่าเรียนกันมาตลอดทั้งเทอม ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว ก็มีน้องๆ หลายคนที่ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวนอกจากจะมีค่าแล้ว ยัง “คุ้มค่า” อีกด้วย

เพราะหลายคนเลือกที่จะใช้เวลาตรงนั้นให้เป็นประโยชน์กับชีวิตผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การฝึกงาน การไปทำงานพิเศษ เป็นต้น ซึ่งบทความนี้เราได้ไปพูดคุยสอบถามกับน้องๆ นักศึกษาและนักเรียนมัธยมที่เลือกจะใช้เวลาว่างตรงนี้ให้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำที่น่าสนใจจากฝ่ายบุคคล (HR)  จากองค์กรใหญ่ที่จะมาให้คำแนะนำแก่น้องๆ ด้วยว่าควรจะทำตัวอย่างไรให้สามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ดีจากการฝึกงานหรือทำงานในองค์กรได้

น้องดิว น.ส.นภัสสร พลูช่วย นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการกระจายเสียงและแพร่ภาพ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ฝึกงานอยู่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ในทีมเขียนบท สาเหตุที่เลือกไม่ได้มองแค่ว่าเราเลือกในสิ่งที่เราคิดว่าทำได้อยู่แล้ว แต่ต้องการท้าทายตัวเองในระดับหนึ่ง คือมีความตั้งใจที่จะฝึกในสิ่งที่ตนเองมีความสามารถแต่ไม่ได้เต็ม 100% อาจจะทำได้ประมาณ 50-80% คือเป็นสิ่งที่เราไม่มั่นใจว่าจะทำได้หรือไม่ ดังนั้น ก็เลยมาลองทำดู ถ้าเกิดว่าเราทำแล้วมันไปพัฒนาสิ่งที่เราต้องการพิสูจน์ตัวเองอยู่ ทำให้มันเต็ม 100% ขึ้นได้ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่บอกได้ว่าอันนี้อาจจะเป็นสิ่งที่เราจะไป แต่ถ้าเกิดว่าทำแล้วไม่ชอบ หรือทำแล้วไม่ได้เพิ่มอะไรก็ไม่ใช่ทางตรงนี้ เพราะฉะนั้นก็เลยคิดว่าความต้องการฝึกคือมาฝึกในสิ่งที่เรายังไม่มั่นใจ ไม่เต็มร้อยในความสามารถเพื่อมาเติมเต็ม

โชคดีมากที่ได้มาฝึกงานที่นี่ ซึ่งมีทีมพี่ๆ ที่คอยรับฟังคำพูดของเราด้วย ไม่ได้มองแค่เราเป็นเด็กฝึกงาน พี่ๆ เปิดโอกาส รับฟังความเห็นของเรา ทำให้เรารู้สึกกล้าและมั่นใจในการทำงานมากขึ้น

กับการมาฝึกงานเป็นการเปิดโลก ทำให้เราเห็นโลกของคนทำงานที่แท้จริง ซึ่งต่างจากที่เราเคยจินตนาการเอาไว้มาก มันเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวที่คิดไว้เลย เพราะโลกในการทำงานจริงๆ แล้วต้องอดทนสูงมาก อย่างการเขียนบทมันทำให้เราได้บทเรียนอย่างหนึ่งว่า บทของเราไม่ได้สำคัญ หรือเป็นใหญ่เลย ถ้าเกิดว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงหรือไม่เป็นไปตามบท เราก็ต้องยอมรับให้ได้ ต้องเข้าใจการทำงานเป็นทีมที่สูงมาก หรือตอนแรกก็ที่มาเขียนซิทคอมส่วนตัวก็ไม่ได้เป็นคนตลกอะไรมาก แต่พอต้องมาเขียนบทตลก เราก็ต้องทำให้ได้ เหมือนกับพี่ๆ คนอื่นที่พอเรามารู้จักตัวจริงของเขาก็ไม่ได้เป็นคนตลกขนาดนั้นแต่เขาก็กลับเขียนออกได้สนุกมากๆ ตรงนี้ก็ทำให้ทึ่งไปเลย แล้วก็เป็นแรงผลักดันให้เราต้องพยายามให้มากขึ้น

“เมื่อฝึกเสร็จตรงนี้เราจะได้รู้ในความสามารถของตัวเองว่าเราชอบอะไร เราถนัดอะไร เรียนจบแล้วจะได้หางานที่ตรงกับความสามารถและทำในสิ่งที่ชอบได้ ที่สำคัญคือ จะได้นำเอาประสบการณ์จากที่ฝึกงานไปใช้ได้เมื่อเวลาเรียนจบแล้ว ประสบการณ์ทีได้จากการใช้เวลาในการฝึกงานบนสนามจริงคือสิ่งมีค่าที่ไม่สามารถได้รับจากที่ไหนในห้องเรียนหรือคลาสไหน ตำราก็ไม่มีบอก ดังนั้น การมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ตรงนี้คือมีคุณค่ามากจริงๆ”

ถ้าอยากจะบอกเพื่อนๆ ที่จะมาฝึกงานตรงก็อยากบอกว่า ให้มาเรียนรู้ให้เต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องวัฒนธรรมในองค์กร ฟังให้มากๆ แล้วจะได้รู้ว่าคนที่เราทำงานด้วยเขามีวัฒนธรรมอย่างไร เขาทำงานกันอย่างไร เปิดหูเปิดตารับฟังสิ่งที่พี่ๆ สอนให้มาก สิ่งนี้สำคัญ

ส่วนสิ่งที่อยากจะบอกพี่ๆ บริษัทต่างๆ หากจะฝากได้ก็อยากให้พวกพี่สอนสั่งกับพวกเรานักศึกษาฝึกงานให้เต็มที่เลย ให้คิดเหมือนกับว่าเราเป็นน้องคนหนึ่งในทีม ที่มาทำงานด้วยกัน ไม่ใช่แค่น้องฝึกงานที่มาแล้วก็ไป ที่สำคัญคือ เวลามอบหมายงานก็ให้พวกเราทำงานให้เต็มที่เหมือนกับว่าเป็นพนักงานคนหนึ่งเลย เพราะค่าตอบแทนที่เราได้อาจจะไม่ใช่เป็นเงินเหมือนกับที่พวกพี่ได้แต่สิ่งที่เราได้คือประสบการณ์

น้องแนน น.ส.ชุติภรณ์ กอร่ม นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบสื่อนวัตกรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร

กล่าวถึงการมาฝึกงานว่า การฝึกงานตามบริษัทต่างๆ ตามที่ได้เรียนมาเป็นเรื่องที่ดีเพราะทำให้เราได้เข้าใจรูปแบบการทำงานมากขึ้นว่าจะต้องทำอะไรบ้าง จะต้องเจอกับงานแบบไหน หรือพบเจอปัญหาอะไร เป็นการเตรียมพร้อมก่อนได้ไปทำงานจริง เพราะถ้าเราไม่ลองมาทำงานในบริษัทจริง เราจะไม่รู้เลยว่าเวลาการทำงานจริงนั้นเป็นอย่างไรเหมือนหรือแตกต่างจากที่เรียนมาหรือเปล่า

ซึ่งหลังจาที่ได้มาฝึกงานแล้วก็พบว่า มันค่อนข้างแตกต่างจากที่เรียนเอาไว้พอสมควร เราได้รับมอบหมายงานจริงที่ต้องส่งให้ลูกค้า พี่ๆ ให้โอกาสได้ลองทำงานจริง ทำให้รู้ว่าการทำงานก็มีบางอย่างที่ในห้องเรียนไม่ได้มีสอนหรือไม่มีในตำราไหน เช่น เราได้เรียนรู้เทคนิควิธีลัดต่างๆ ในการทำงาน ซึ่งทำให้พบว่ามีหลายรูปแบบที่จะทำให้งานออกมาได้ด้วย ซึ่งถ้าไม่ได้มาลงทำงานจริงก็อาจจะไม่รู้

นอกจากนี้ สิ่งที่ได้เรียนรู้ก็คอเรื่องความอดทนและความเข้าใจในการทำงานกับลูกค้า อย่างตอนที่เราเรียนเวลาทำงานให้ห้องอาจารย์ก็อาจจะยืดหยุ่นกับเรา หยวนๆ กับเราได้ แต่พอเป็นลูกค้าแล้วงานที่เราได้รับมอบหมายจะต้องตรงตามที่เขาต้องการ

“ลูกค้าอยากได้อะไรเราก็ต้องทำให้ได้แบบเป๊ะๆ ไม่มีการยืดหยุ่น และต้องทำงานให้ได้อย่างที่ลูกค้าต้องการไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนกี่ครั้งด้วย ดังนั้น การฝึกงานจึงเป็นประสบการณ์ที่ดีที่เราได้มีโอกาสเข้ามาทำงานแบบจริงจัง ซึ่งถ้าเราไม่เคยลองเลยเราก็จะไม่ได้เตรียมพร้อมและไม่ได้ประสบการณ์จริงและประสบการณ์ตรง”

คำแนะนำสำหรับเพื่อนๆ น้องๆ ที่จะมาฝึกงาน อย่างแรกเลยคือเรื่องของการตรงต่อเวลาสำคัญมาก โดยเฉพาะเรื่องการส่งงานให้ตรงกับที่นัดหมายกับลูกค้า ซึ่งมันสำคัญมากกับความน่าเชื่อถือของบริษัท นอกจากนี้ สิ่งที่ได้คือเรื่องความอดทนในการทำงานให้ออกมาดีตามความต้องการลูกค้า ถือว่าการฝึกงานเป็นการใช้เวลาที่คุ้มค่าเป็นประสบการณ์ที่หาค่าไม่ได้ และที่สำคัญคือยังเกิดความทรงจำดีๆ ระหว่างพี่ๆ ที่เราได้ฝึกงานอีกด้วย

น.ส.ปัทมนันท์ สังข์พงษ์ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนศรีบุณยานนท์ ทำงานพิเศษที่ร้านชาบูชิ สาขา เซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต

เล่าถึงสาเหตุที่ไปทำงานพิเศษว่า เป็นเพราะอยากหารายได้เสริม และอยากได้ประสบการณ์ในการทำงานด้วย เพราะที่ผ่านมา เวลาอยากได้อะไรอยากซื้ออะไรเราก็จะเกรงใจที่บ้านไม่กล้าขอเงินเพื่อไปซื้อของที่อยากได้ ก็เลยคิดว่าถ้ามาทำงานพิเศษก็จะช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้านได้อีกทาง

ในความรู้สึกที่มาทำงานพิเศษกับสิ่งที่คิดไว้แต่แรก ค่อนข้างแตกต่างกันมากเลย เพราะตอนที่คิดจะมาทำงานเราก็มองว่าไม่น่าจะยากนัก คิดว่าไม่มีอะไร สำหรับเราก็น่าจะโอเค. ทำได้ แต่พอมาทำงานจริงๆ แล้วก็รู้เลยว่าการทำงานที่แท้จริงมันทั้งหนักและเหนื่อยมาก ยิ่งบางวันที่ลูกค้าเยอะๆ เราก็จะเหนื่อยมากหัวปั่นเลย หรือบางวันที่พนักงานลากันเยอะๆ คนทำงานก็จะน้อยเราก็ต้องรับมือให้ได้

ทั้งนี้ สิ่งที่อยากให้พี่ๆ ในที่ทำงานสอนเราก็คือ อยากให้เขาสอนในสิ่งที่ถูกต้องและสิ่งที่ดีๆ ในทำงาน ไม่อยากให้มาคิดเยอะอะไรกับรุ่นน้อง เพราะรุ่นน้องคือคนที่พร้อมจะเรียนรู้อยู่แล้ว โดยเฉพาะคำแนะนำในการทำงานเรื่องที่สำคัญๆ เช่น มาตรฐานการทำงาน ประสบการณ์ต่างๆ เพื่อให้เราได้เรียนรู้เร็วขึ้น

สำหรับสิ่งที่ได้รับคือประสบการณ์ในการทำงาน และได้เพื่อนร่วมงานที่ดี และได้อะไรจากหลายๆ อย่างที่เราไม่เคยได้รู้มาก่อน จนทำให้ได้บทเรียนดีๆ ในการทำงานกลับมาคือ “งานทุกงานไม่มีคำว่าสบาย และงานทุกงานย่อมให้ประสบการณ์แก่เรา”

ส่วนคำแนะนำที่อยากจะบอกเพื่อนๆ ทุกคนให้เตรียมพร้อมก่อนที่จะมาทำงานพิเศษก็คือ เตรียมร่างกายให้พร้อม ต้องทั้งแข็งแรงและอดทนให้มากๆ พร้อมเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ

นายพรชัย แจ้งบำรุง นักเรียนชั้น ปวช.ปี 3 โรงเรียนวิทยาลัยตั้งตรงจิตร พณิชยการทำงานพิเศษอยู่ที่ร้านชาบูชิ เซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต

เล่าถึงการทำงานหารายได้พิเศษที่ร้านอาหารว่า นอกจากจะเป็นการหารายได้พิเศษแล้ว อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อที่จะนำประสบการณ์ตรงนี้ไปใช้ในการทำงานจริงอีกด้วย เพราะคิดว่าเวลาไปทำงานก็ต้องเรียนจากของจริงถึงจะเข้าใจได้ว่าโลกของคนที่ทำงานแล้วเขาเป็นอย่างไร

พอลองทำงานแล้ว ยอมรับเลยว่าแตกต่างจากที่คิดเอาไว้มากๆ เพราะคิดว่าไม่น่าจะยากอะไร แต่พอทำไปแล้วเหนื่อยมาก ยากกว่าที่คิดไว้เยอะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ท้อหรือรู้สึกลำบากเกินไป แค่คิดว่าโชคดีแล้วที่เราตัดสินใจถูก ที่ได้มาลองทำงานแบบนี้ดู คือถ้าไม่ลองเลยเราอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าชีวิตทำงานจริงมันหนักมากแค่ไหน

สิ่งที่ได้รับจากการทำงานก็คือประสบการณ์จริง ซึ่งก็มีทั้งเหนื่อยและสนุก และก็ทำให้มีเพื่อนเยอะขึ้นด้วย ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องดี และทำให้เรามีความพร้อมในการทำงานในอนาคตอีกด้วย

และถ้าหากจะแนะนำเพื่อนที่อยากจะมาลองฝึกงานดู ก็อยากเตือนว่าอย่างแรกเลยคือ ต้องศึกษาเรื่องราวงานที่เราจะทำก่อนว่าทำอะไร เพื่อเตรียมความพร้อม ที่สำคัญเลยก็คือ ต้องอดทนและตั้งใจทำงานให้มากๆ อย่าท้อถอย

คุณสาว สมฤดี  ช่างเจริญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท มติชน มหาชน จำกัด

บริษัทฯ เราจะรับนักศึกษางานหลายรุ่น และให้ฝึกงานตามสาขาที่เรียนมา ซึ่งเบื้องต้นนักศึกษทุกคนที่ได้มาฝึกงานกับเรา เราก็จะมีปฐมนิเทศก่อนให้ทุกคนได้เรียนรู้กฎระเบียบทั่วไปของบริษัท เพื่อการปรับตัวและเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร และจากที่เราทำงานตรงนี้มาเราเห็นการเปลี่ยนแปลงของเด็กมาหลายรุ่นหลายยุค เมื่อก่อนเด็กๆ ส่วนใหญ่จะมีความอดทนสูงกว่ามากแต่เด็กสมัยนี้ฉลาดขึ้นเก่งขึ้นแต่ความอดทนอาจจะน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มาทดแทนก็คือ เด็กยุคนี้เก่งเรื่องเทคโนโลยี ซึ่งเขาสามารถมานำมาใช้กับการทำงานได้ ช่วยให้การทำงานเร็วขึ้นและง่ายขึ้นนี่คือจุดแข็งที่สำคัญของเด็กยุคนี้

“เมื่อเขาเก่งกว่าเรื่องการใช้เทคโนโลยีต่างๆ บางครั้งเขาก็บอกเราแนะนำเราด้วยซ้ำว่า พี่ทำแบบนี้สิเร็วกว่าดีกว่า ใช้แอปนี้สิ อะไรแบบนี้ คือมันช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตรงนี้เราต้องยอมรับในความสามารถของเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งเราก็เปิดกว้างพร้อมรับฟังความคิดของพวกเขา เราไม่ได้มองว่าเป็นแค่เด็กแล้วเราจะไม่ฟัง แต่เมื่อเขาเก่งกว่าเราตรงไหนเราก็พร้อมฟังยอมรับฟังคำพูดคำแนะนำของเขาด้วย แล้วสิ่งที่เรามีคือประสบการณ์ที่เราจะถ่ายทอดให้กับพวกเขา ก็ถือเป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ฉะนั้นคิดว่าการมาฝึกงานของเด็กๆ น้องๆ นักศึกษาไม่ใช่แค่สอนเขา แต่บางอย่างเขาก็สอนเราด้วยซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก”

คำแนะนำเบื้องต้นที่จะบอกน้องๆ ที่มาฝึกงานก็คือ อย่างแรกเลยคือเรื่องการตรงต่อเวลา ตอนนี้เราเป็นนักศึกษาถ้ามาทำงานสายหรือทำงานไม่เสร็จตรงเวลาก็อาจจะไม่ร้ายแรงนัก แต่ถ้าจบออกไปแล้วเวลาทำงานจริงเรื่องเวลาเป็นเรื่องที่บริษัททุกบริษัทให้ความสำคัญหมด คุณจะมาสายหรือส่งงานช้าอะไรแบบนี้ไม่ได้ เพราะเวลาเป็นเรื่องสำคัญและมีค่ามาก เหมือนคำพูดที่ว่า “เวลาเป็นเงินเป็นทอง” ซึ่งนักศึกษาบางคนยังไม่ตระหนักหรือเข้าใจในเรื่องนี้ บางคนก็ยังชิลล์สบายๆ อยู่ แต่เมื่อคุณทำงานจริงแล้วจะทำแบบนั้นไม่ได้เลย

อีกอย่างคือเรื่องของความอดทน อย่างที่บอกคือเด็กรุ่นใหม่ความอดทนค่อนข้างน้อย อันนี้ก็อยากให้ปรับตัวกัน นอกจากนี้ก็คือเรื่องของมารยาท การทักทายการไหว้ คำพูดคำจา เพราะอย่างไรวัฒนธรรมคนไทยไม่ว่าจะบริษัทไหนไทยจีนฝรั่งยังไงก็ให้ความสำคัญกับเรื่องของมารยาทเป็นสำคัญ ดังนั้น ก็อยากจะฝากเตือนเรื่องนี้เอาไว้ด้วย

สุดท้ายเลย ก็คือเรื่องของความใส่ใจ อยากให้น้องๆ ทุกคนไม่ว่าทำงานที่ไหน ให้รู้จักมองสังเกตทุกอย่างว่าใครทำอะไร เขาทำกันอย่างไร บางคนที่ทำตรงนี้ได้ดีแทบไม่ต้องบอกไม่ต้องแนะเขาก็เรียนรู้ได้เร็ว ซึ่งเป็นเรื่องดีเมื่อเวลาที่คุณไปทำงานจริง คุณก็จะพัฒนาและเติบโตได้เร็ว เด็กบางคนไม่ค่อยสนใจใส่ใจบางครั้งเอาแต่เล่นมือถือตรงนี้ก็อยากจะเตือนไว้ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ค่อยน่ารัก เมื่อเรามาแล้วเราก็ควรจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทุกอย่างให้เต็มที่เพราะเชื่อว่าพี่ๆ ทุกคนพร้อมที่จะให้คำแนะนำสั่งสอนก็อยากให้น้องๆ พร้อมที่จะเรียนรู้เช่นกัน.

ได้ฟังคำแนะนำต่างๆ ทั้งจากนักศึกษาน้องๆ นักเรียนมัธยม และพี่ฝ่าย HR ก็น่าจะทำให้เกิดไอเดียและการเตรียมพร้อมที่ดีในการใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมนี้ให้เกิดประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ได้นะ.

 

ปิดเทอมนี้ถ้ายังไม่มีไอเดียว่าจะทำกิจกรรมอะไร ที่ไหน และอย่างไร ลองเข้าไปที่ www.happyschoolbreak.com  หรือ www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com เว็บไซต์ที่ได้ทำการรวบรวมกิจกรรมและแหล่งเรียนรู้มากกว่า 500 แห่งทั่วประเทศให้ทุกคนได้ทำกันช่วงปิดเทอม และเราจะทำการเพิ่มกิจกรรมไปเรื่อยๆ เพื่อให้ทุกคนทำให้ปิดเทอมนี้ไม่ธรรมดา

ที่มา :https://marketeeronline.co/archives/15619

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้และ นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า