ด้วยโลกที่กว้างไกลไร้ขอบเขตอย่างเช่นทุกวันนี้ ทำให้เราสามารถเชื่อมโยงตัวเองกับโลกกว้าง อันเป็นที่ที่จะมีโอกาสลอยทั่วไปในอากาศ แล้วจะมีช่วงเวลาไหนที่ดีไปกว่าช่วงเวลาปิดเทอมที่เราจะมาทดสอบโอกาสนั้นๆ ว่าเราเหมาะกับสิ่งใดมากที่สุด
ดิจิทัล อาร์ต เป็นที่แพร่หลายมานาน จนกระทั่งการเข้ามามีบทบาทมากขึ้นของ NFT (Non-Fungible Token) ก็ยิ่งทำให้ตลาดงานศิลปะในรูปแบบดิจิทัลคึกคักมากยิ่งขึ้นไปอีก และเนื่องจากส่วนใหญ่เราจะมีอุปกรณ์บางอย่างพร้อมอยู่แล้วในมือ ทั้งมือถือ และแอปพลิเคชัน วันนี้เราจึงมีแพล็ตฟอร์มเก๋ๆ ที่เอาไว้โชว์และสร้างรายได้เพลินๆ ช่วงปิดเทอมสำหรับสายอาร์ตมาเล่าให้ฟังกัน โดยแต่ละที่ก็จะมีรายละเอียดในการใช้งานแตกต่างกันออกไป
1 Opensea
เชื่อว่าหลายคนที่ทำงานสายอาร์ตและรู้จักกับ NFT น่าจะต้องรู้จักกับเว็บไซต์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะเป็นตลาด NFT ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผลงานหลากหลาย ทั้งภาพวาด ภาพถ่าย มีมต่างๆ อะนิเมชั่น ฯลฯ และมูลค่าการซื้อขายสูงมาก ที่สำคัญเสียค่า Gas fee (ค่าธรรมเนียม) เพียงครั้งเดียวก็สามารถลงชิ้นงานของตัวเองได้ตลอด
สนใจสมัครเป็นศิลปินในแพลตฟอร์มนี้ เชิญที่ opensea.io
2 Foundation
เมื่อพูดกันถึงแพล็ตฟอร์มที่เป็นที่นิยมระดับโลกกันไปแล้วก็มาพูดถึงแพล็ตฟอร์มที่เป็นที่นิยมในหมู่ศิลปินชาวไทยกันบ้าง เงื่อนไขของ Foundation ก็คือ ต้องให้คนที่เป็นศิลปินอยู่แล้วเชิญเข้าร่วมเป็นครีเอเตอร์จึงจะมีสิทธิ์ลงขายได้ และเมื่อขายผลงานชิ้นแรกได้จึงจะมีสิทธิ์เชิญศิลปินท่านอื่นเข้ามาขายงานได้ ด้วยเงื่อนไขนี้เองทำให้ Foundation เป็นแพล็ตฟอร์มที่งานมีคุณภาพมากทีเดียว และหากมีคนซื้อผลงานเราไปขายต่อ เราซึ่งเป็นครีเอเตอร์จะได้รับส่วนแบ่ง 10% ในทุกๆ การขายแต่ละครั้ง เข้าชมผลงานและร่วมงานได้ที่ foundation.app
3 Mintable
จุดเด่นของแพล็ตฟอร์มนี้คือ ไม่เสียค่าธรรมเนียมเนื่องจาก มันถูกสร้างอยู่บนเครือข่ายของ Ethereum Blockchain (สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก) โดยในแพล็ตฟอร์มนี้ก็มีผลงานหลากหลายไม่แพ้ที่อื่น และยังสามารถประมูลขายได้ด้วย ลองแวะเวียนไปดูผลงานได้ที่ mintable.app
4 Nifty Gateway
จัดเป็นอีกแพล็ตฟอร์มหนึ่งซึ่งยิ่งใหญ่อลังการในด้านของศิลปินเป็นอย่างมาก เพราะศิลปินที่มีผลงานกับแพล็ตฟอร์มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพราะเป็นนโยบายที่ทางแพล็ตฟอร์มได้ร่วมมือกับแบรนด์และศิลปินที่มีชื่อเสียงด้านต่างๆ ออกผลงานที่มีคุณภาพในปริมาณจำกัดทุกๆ 3 สัปดาห์ ผลงานที่ออกมาจึงเรียกได้ว่า Exclusive ขั้นสุด ใครไม่จ้องเอาไว้ พลาดแล้วพลาดเลยนะ ชมผลงานและคำนวณเวลาที่จะได้เจอผลงานชิ้นใหม่ได้ที่ www.niftygateway.com
5 Rarible
เป็นแพล็ตฟอร์มที่มีการใช้โทเค็น ERC-20 RARI ในการซื้อขายลงงาน โดยทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะได้รับโทเค็น RARI ทั้ง 2 ฝ่ายยิ่งมีจำนวนโทเค็นมากก็สามารถซื้อขายผลงานได้มากโดยทางเว็บไซต์จะมี RARI จำกัด 75,000 เหรียญต่อสัปดาห์ มีการลงขายผลงานหลากหลายประเภท ทั้ง ภาพดิจิทัล หนังสือ เพลง ภาพยนตร์ ซึ่งในแพล็ตฟอร์มนี้จะสามารถแสดงตัวอย่างผลงานได้ แต่จะมีเพียงผู้ซื้อเท่านั้นจึงได้จะได้ผลงานที่สมบูรณ์ไป
สามารถใช้งานแพล็ตฟอร์มได้ที่ rarible.com
6 Async
ความพิเศษของแพล็ตฟอร์มนี้ก็คือ คนซื้อสามารถปรับเปลี่ยนผลงานที่ซื้อไปได้ โดยเจ้าของผลงานจะให้สิทธิ์ผู้ซื้อที่ซื้อตัวมาสเตอร์ไปแล้วนั้น สามารถซื้อตัวเลเยอร์เพื่อปรับเปลี่ยนผลงานมาสเตอร์ที่มีอยู่ได้
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ async.art
7 SuperRare
เป็นแพล็ตฟอร์มที่ Rare สมชื่อ เพราะผลงานที่ปรากฏอยู่ในแพล็ตฟอร์มนี้จะมีเพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น ผลงานที่นี่จึงเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ศิลปินค่อนข้างมีฝีไม้ลายมือน่าสนใจ ราคาจึงสูงตามไปด้วย ทั้งฝีมือก็ด้วย ค่าธรรมเนียมก็เช่นกัน เพราะมีการเก็บค่าธรรมเนียมทุกครั้งที่ลงผลงาน แต่ทั้งนี้เมื่อมีการขายเกิดขึ้น ครีเอเตอร์ หรือผู้ขายก็รับส่วนแบ่งสูงลิ่วทีเดียว ทั้งนี้ SuperRare ไม่ได้เปิดโอกาสสร้างรายได้เพียงการนำภาพไปขายเท่านั้น แต่ยังให้ผู้ใช้งานรับหน้าที่เป็น Curator ในชิ้นงานที่ผู้ใช้งานสนใจ และหากขายได้ก็จะได้ส่วนแบ่งด้วย
สนใจร่วมเป็นหนึ่งในครีเอเตอร์ของที่นี่สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ superrare.com
ยังมีเว็บไซต์แพล็ตฟอร์มสำหรับลงผลงาน NFT และลงขายดิจิทัลอาร์ตทั่วไปมากมายให้เลือก เมื่อดูเงื่อนไขและวิธีการแล้ว ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกทางนั้นได้เลย
สำหรับศิลปินNFTที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย อาทิ Pukari, sinebysine, เหม่ยซันมุ่ย, Lafyna, pannpam (คุณแพนแพมเพิ่งจะทำรายได้ 1 ล้านบาท) ฯลฯ สามารถไปกดติดตามที่แพล็ตฟอร์มโซเชียลต่างๆ ไว้เพื่อเป็นแนวทางหรือเรียนรู้เทคนิคสำหรับลงงาน NFT ได้
เมื่อ NFT ใกล้ชีวิตเรามากขึ้นทุกที ลองเริ่มทดลองจากสิ่งที่ชอบ เผื่อวันหนึ่งอาจจะพัฒนาเป็นสิ่งที่ใช่ แล้ววันปิดเทอมที่ดูเหมือนไม่มีอะไร จะกลายเป็นวันที่สร้างรายได้ได้เป็นความภาคภูมิใจที่เราสร้างด้วยมือตนเอง อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาสมองส่วนการสร้างสรรค์ให้ไม่หยุดนิ่งพร้อมกันนั้นก็ยังทำให้มีสมาธิห่างไกลจากกลุ่มอาการด้านการขาดสมาธิจดจ่อ (Inattentive) และกลุ่มอาการใจร้อนหุนหันพลันแล่น (Hyperactivity-Impulsivity) หรือ สมาธิสั้น ซึ่งจะทำให้ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันได้
เรียกได้ว่า ทั้งดีต่อใจ ต่อกาย ต่อสมอง และการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต ดังนั้นการหยิบปากกา กระดาษ หรือ โทรศัพท์มือถือ แล้วเปิดแอปพลิเคชันขั้นมา แล้วลงมาสร้างสรรค์ชิ้นงานก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับปิดเทอมนี้เลยนะ