เป็นที่ทราบกันในวงกว้างมานานแล้วว่า ภาษาที่ 3 กลายเป็นภาษาที่จำเป็นอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป และยิ่งย้ำชัดมากขึ้นเมื่อปัจจุบันหลายโรงเรียนทั่วประเทศก็มีการจัดการเรียนการสอนแบบ “ไตรลิงกวล” (Trilingual School) หรือโรงเรียน 3 ภาษากันแล้ว
แต่สำหรับน้องๆ คนไหนที่ยังต้องการเพิ่มทักษะความรู้ภาษาที่ 3 -4 -5 เพื่อเพิ่มศักยภาพของตัวเองในการต่อยอดเพื่อการเรียนต่อ การทำงาน หรือการสื่อสารและอื่นๆ ปิดเทอมนี้เรามาใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ด้วยการเรียนภาษาใหม่กับครูผู้สอนสุดชิคกันดีกว่า ในที่นี้เราจะเน้นที่ครูคนไทยนะ
เริ่มที่ “ภาษาจีน” ซึ่งตอนนี้หลายโรงเรียนถูกจัดให้เป็นภาษาที่ 3 ที่เด็กๆ จะต้องเรียนอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะคนจีนมีอยู่แทบจะทุกมุมโลก ทำงาน สร้างธุรกิจมากมาย ว่ากันว่า มีคนใช้ภาษาจีนมากกว่า 1.10 พันล้านคน ดังนั้นไม่ว่าจะมองเรื่องธุรกิจ การต่อยอดทางวัฒนธรรม หรือการสื่อสารกับเพื่อนที่พูดภาษาจีนเป็นภาษาหลัก การรู้ภาษาจีนย่อมพาเราไปได้ไกลอย่างแน่นอน
และในแอพลิเคชันติ๊กตอก (Tiktok) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากอยู่ในขณะนี้ก็มีครูสอนภาษาจีนอยู่มากมาย อาทิ
ช่อง ครูพี่นิวสอนจีน
@krupnewsornjeen มีผู้ติดตาม 123.9 k
ชื่อคุณครูก็ตามชื่อช่องเลย ครูพี่นิวของน้องๆ นั้น ขยันสอนมาก และมีเคล็ดลับในการจดจำคำศัพท์ การใช้งานไวยกรณ์ มาฝากกันตลอด พร้อมทั้งมีการไลฟ์สดอย่างสม่ำเสมอ ใครต้องการก็จะมีชีทสำหรับการสอนในแต่ละวันแจกฟรีด้วย เหมาะสำหรับคนทั่วไปที่ต้องการรู้ภาษาจีนในชีวิตประจำวัน รู้คำศัพท์และประโยคต่างๆ ที่พระเอกนางเอกในซีรีส์เขาพูดกัน รวมไปถึงหากต้องการนำไปสอบในโรงเรียน หรือสอบวัดระดับ ครูพี่นิวก็มีมาไลฟ์สอนกันอย่างเข้มข้นด้วย กดติดตามกันได้เลยจ้า แอบกระซิบว่า ครูพี่นิว มีโซเชียลมีเดียทุกแพล็ตฟอร์มค่ะ
ครูลี่ลี่
ช่อง @liliyang520 มีผู้ติดตาม 79.5 k
ส่วนใหญ่เป็นการสอนคำศัพท์ โดยแบ่งเป็นกลุ่มคำศัพท์ที่เหมือนกันในแต่ละคลิป ทำให้จำได้ง่าย ใครเริ่มต้น อยากได้คลังศัพท์เยอะๆ สามารถกดติดตามช่องนี้ไว้ได้เลย นอกจากนี้ครูลี่ลี่ยังมีไลฟ์สดอยู่เสมอ พร้อมนำคลิปมาทบทวนให้เป็นระยะด้วย
แวะกันมาที่ “ภาษาญี่ปุ่น” กันบ้าง ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวตลอด และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ตลอดทั้งปี มีวัฒนธรรมที่น่าศึกษา และยังเป็นประเทศที่เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีหลายอย่าง ทำให้การรู้ภาษาญี่ปุ่นนั้นสามารถให้ประโยชน์ได้รอบด้าน สำหรับครูภาษาญี่ปุ่นเราจะสามารถแวะไปทักทายได้ระหว่างปิดเทอมตามโซเชียลต่างๆ ได้แก่
ช่อง PaagJapan ปากญี่ปุ่น
@paagjapan ผู้ติดตาม 571.4 k
เป็นช่องที่เล่าเรื่องราวญี่ปุ่นให้ได้รู้จักที่นี่มากขึ้น และถึงเวลาสอนภาษาญี่ปุ่นก็จะแน่นแบบจัดหนักจัดเต็ม ทั้งการบ้าน การเรียนก็เห็นจะเป็น ที่สอนการใช้งาน การท่องจำ เทคนิคการเรียน การสอบ และสอนได้แบบเข้าถึงเนื้อหาได้ลึกซึ้งมาก สมกับที่เป็นติวเตอร์สอนมานาน ทั้งนี้อารมณ์ของช่องก็ไม่ได้ตึงเครียดมากขนาดนั้น แต่มีลักษณะกวนๆ พอให้ยิ้มๆ ใครสนใจภาษาญี่ปุ่น ช่องนี้แนะนำเลย
อีกช่องสำหรับภาษาญี่ปุ่นคือ ภาษาญี่ปุ่นพร้อมเสิร์ฟ @tai_japanese ผู้ติดตาม 41.4 k ช่องนี้เน้นว่า “ใครๆ ก็พูดภาษาญี่ปุ่นได้” และเนื้อหาในช่องก็เป็นแบบนั้น อารมณ์ในช่องจะไม่ใช่การเรียนการสอนแบบในห้องเรียน แต่จะเป็นการเรียนรู้เรื่องในชีวิตประจำวัน ทั้งการอยู่ญี่ปุ่น หรือการไปเที่ยวแบบทุกแง่มุม สนใจก็กดติดตามไว้ได้เลย
อีกภาษาที่เป็นที่นิยม และมีผู้ที่ใช้ภาษานี้ทั่วโลกมากถึง 284.9 ล้านคน คน ได้แก่ “ภาษาฝรั่งเศส” ใครที่สนใจและอยากต่อยอดเรื่อง แฟชั่น ความสวยความงาม แบรนด์ดังระดับโลก และสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียง รู้ภาษาฝรั่งเศสไว้นอกจากจะไม่ใช่เรื่องเสียหายแล้ว ยังเป็นเรื่องที่จะทำให้ได้เปรียบด้วย
สำหรับช่องสอนภาษาฝรั่งเศสที่จะแนะนำกันในวันนั้น คือ ช่องครูขวัญ @french_with_Kwan ผู้ติดตาม 30.1 k ช่องสอนภาษาฝรั่งเศสที่มีตั้งแต่บทเรียนง่ายๆ อย่างการนับเลข ไปจนถึงเคล็ดลับการเรียนต่อปริญญาโทที่ฝรั่งเศส ใช้ทุกสื่อการเรียนการสอนเท่าที่เราจะนึกได้ และยังมีเคล็ดลับต่างๆ เกี่ยวกับชีวิตประจำวันด้วย กระซิบเหมือนเดิมว่า ครูขวัญมีโซเชียลครบทุกแพลตฟอร์มจ้า
สำหรับช่องนี้เอาใจสาวๆ โดยเฉพาะ ช่อง @vinny1150 ช่องของ แวงซองค์ ภาคภูมิ ปราช หนุ่มฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และทำช่องติ๊กตอกเพื่อสอนภาษาฝรั่งเศสแบบเจาะลึกในด้านการออกเสียง การอ่าน การพูด แต่ไม่ได้เน้นแกรมม่า (ดังนั้นช่องนี้จึงไม่ได้มีไว้สำหรับดูเพื่อนำไปสอบ) นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรม และเกร็ดความรู้มากมายในภาษาฝรั่งเศสมาบอกกันอยู่ตลอด
อีกภาษาที่เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากเช่นกัน ได้แก่ “ภาษาเกาหลี” หลายคนบอกว่า เรียนภาษาเกาหลีเพื่อดูซีรีส์จะได้ได้ยินเสียงพระเอกนางเอกที่รักโดยไม่ต้องผ่านเสียงพากย์ แต่มีไม่น้อยเลยที่ตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะเข้าไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยและสูงกว่านั้นที่เกาหลี ซึ่งเป็นประเทศที่ติดอันดับท็อปในการจัดอันดับประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก[1] นอกจากนี้จะเห็นได้ว่า เกาหลีส่งออกแบรนด์สินค้าหลายอุตสาหกรรมออกสู่ตลาดโลกไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองทั้งหญิงชาย ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีต่างๆ และมีการลงทุนในอีกหลายอุตสาหกรรมในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ดังนั้น ศึกษาภาษาเกาหลีเพิ่มเติมกันเถอะ
จะบอกว่าครูสอนภาษาเกาหลีในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะติ๊กตอกนั้นมีเยอะมาก นับกันไม่หวาดไหว แต่ละช่องก็ล้วนแต่มีคุณภาพอัดแน่นมาก แต่ด้วยเนื้อที่จำกัด เราจึงขอนำเสนอเป็นน้ำจิ้มแค่ 2 ช่องเท่านั้น
ช่องแรกคือ ช่องครูพลอย @ployyland มีผู้ติดตาม 134.3 k ครูพลอยเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่ประเทศเกาหลี และมีประสบการณ์การสอนมากกว่า 7 ปี ในช่องมีทั้งการสอนภาษาเกาหลีด้วยเทคนิคการเรียนการสอนที่หลากหลาย มีแนะนำการเรียนภาษา และไปเรียนต่อที่เกาหลีอีกด้วย ใครสนใจเรียนภาษาเกาหลีแบบแน่นๆ เต็มๆ กดติดตามไว้ไม่เสียเปล่าแน่นอนจ้า
อีกช่องที่จะแนะนำสำหรับภาษาเกาหลีก็คือ ช่องครูซอย็อน @sy8755 ผู้ติดตาม 39.1 k ครูซอย็อนมีบุคลิกความเป็นครูสูงมาก แต่เป็นครูใจดีและสดใส และด้วยเหตุนี้เอง ช่องของครูซอย็อนจึงได้ทั้งความรู้แบบอัดแน่นเหมือนอยู่ในห้องเรียน แต่ก็มีความสดใสและเทคนิดแพรวพราวด้วย แนะนำให้กดติดตามไว้ได้เลยค่ะ
แถมช่องสำหรับ “ภาษาเยอรมัน” ไว้สักช่อง นั่นคือช่อง @gersiri เป็นช่องสอนภาษาเยอรมันจากชีวิตประจำวัน มีการรวบรวมคำศัพท์เป็นกลุ่มคำ และแนะนำเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ภาษาเยอรมันด้วยค่ะ ใครที่สนใจทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ หรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับสหภาพยุโรป รู้ภาษาเยอรมันไว้ ก็สามารถต่อยอดได้ดีเลยค่ะ
ยังมีอีกหลายภาษาที่สามารถเรียนเพื่อนำไปใช่ประโยชน์ได้เช่น ภาษาสเปน อาหรับ ฮินดี เวียดนาม โปรตุเกส ฯลฯ สามารถหาได้ตามสื่อโซเชียลต่างๆ ได้เช่นกัน
ตามที่กล่าวมาทั้งหมดส่วนใหญ่เน้นต่อยอดทักษะการใช้ชีวิต การงาน วัฒนธรรม แต่รู้หรือไม่ว่า การเรียนภาษาที่ 3 หรือหากใครอยากจะเรียนภาษาที่ 4 ที่ 5 ด้วย ก็สามารถพัฒนาสมองและการคิดวิเคราะห์ และยังสามารถพัฒนาทักษะการทำงานแบบหลายอย่างในครั้งเดียวให้ดีขึ้นได้ด้วย แต่ทั้งนี้หากไม่ได้เป็นคนชอบด้านภาษา ลองเลือกแค่ภาษาที่ชอบจริงๆ และทำมันให้ดีที่สุดก็ได้ อย่าให้ตัวเองเครียดหรือกดดันมากเกินไป เพราะนั่นจะยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่กับภาษานั้นๆ มากยิ่งขึ้น
ทริคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการเรียนภาษาต่างประเทศให้ ‘ง่ายนิดเดียว’ ก็คือ ลองเลือกทำสิ่งที่ชอบเป็นภาษาที่เราสนใจ อย่างเช่น การดูหนัง ดูซีรีส์ด้วยภาษาต้นฉบับ โดยเปิดซับไตเติ้ลแปลไทยในครั้งแรก แล้วเปลี่ยนเป็นภาษาต้นฉบับในการดูรอบถัดไป จะช่วยให้รู้คำศํพท์เพิ่มมากขึ้น ส่วนการฟังเพลงจะช่วยเรื่องการออกเสียง จากนั้นลองพูดกับตัวเองในกระจกในกรณีไม่มีคนคุยภาษานั้นๆ ด้วย หรือจะเป็นการคุยให้คนอื่นฟังก็ได้เช่นกัน อีกอย่างที่ทำแล้วได้ผลและทำให้เราเห็นคำศัพท์ภาษาต่างประเทศได้บ่อยก็คือ เขียนคำศัพท์แปะไว้บนสิ่งของภายในบ้าน และนำคำเหล่านั้นมาใช้งานทับศัพท์ไปเลย หรือแต่งประโยคได้ก็จะยิ่งได้ผลเร็วยิ่งขึ้น
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเรียนในช่วงปิดเทอม!
///////
[1] ข้อมูลจาก https://www.currentschoolnews.com/education-news/best-educational-system-in-the-world/