“มาร์ค Masterchef Junior Thailand” ชวนดูแลสังคม “เริ่มที่เรา ได้ที่โลก” – “รับแล้ว ต้องคืนบ้าง”

“มันต้องเริ่มจากตัวเราเองก่อน มองว่าตรงไหนคือปัญหาที่เราอยากแก้ไข ยิ่งเป็นปัญหาที่เราสนใจ แรงผลักดันมันจะเยอะจนเราทำมันออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

นี่คือคำตอบของ “มาร์ค ภาวริสร์ พานิชประไพ” ท็อป 3 จากรายการสุดยอดทำอาหาร มาสเตอร์เชฟจูเนียร์ไทยแลนด์ ซีซัน 1 เมื่อเจอคำถามที่ว่า หากอยากจะช่วยแก้ปัญหาให้กับโลกนี้บ้าง จะต้องเริ่มจากตรงไหน

มาร์คที่ตอนนี้เปลี่ยนจากเด็กชายเป็น เด็กหนุ่ม และทำกิจกรรมเพื่อช่วยสังคมมาแล้วมากมายหลายกิจกรรมผ่านการทำอาหารซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ถนัดมากๆ เล่าให้เราฟังว่า ยิ่งใกล้ชิดเราจะยิ่งมีพลังที่จะอยากทำให้สิ่งนั้นๆ มันดีขึ้น

“คนบางคนอยากจะทำอะไรดีๆ เพื่อสังคม แต่คิดโปรเจกต์ไม่ออกนอกจากการบริจาคเงินซึ่งบางคนอาจจะอยากทำมากกว่านั้นก็ได้ มาร์คจะแนะนำว่า ให้มองปัญหาที่ตัวเองเจอก่อนครับ อย่างมาร์คชอบทำอาหาร ก็เห็นปัญหาเกี่ยวกับเศษอาหารที่มันจะเกี่ยวเนื่องไปถึงปัญหาภาวะโลกร้อน (Global Warming) และปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งพอมองจากมุมที่เราเห็นและอยากจะแก้ไขปัญหา เราจะพิจารณาเองได้โดยอัตโนมัติว่าเราจะต้องทำอย่างไรบ้างกับปัญหานั้นๆ และเวลาที่เราลงแรงและเวลาจริงๆ มันได้เห็น ได้เจาะลึกปัญหาจริงๆ ยิ่งเป็นปัญหาที่เราสนใจ มันยิ่งผลักดันให้มันเกิดประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย”

ซึ่งโดยส่วนตัวของมาร์คเองก็ได้เริ่มแล้วด้วยการที่จะทำให้เศษอาหารที่เกิดจากการทำอาหารกลายเป็น Zero waste หรือ การไม่มีขยะเหลือทิ้งเลย

“โปรเจกต์ส่วนตัวที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ คือการทำปุ๋ยจากเศษอาหาร ตรงนี้เกิดจากเราเห็นปัญหาของอาหารเหลือทิ้ง และมองว่าเป็นปัญหาใหญ่ เป็นส่วนใหญ่เลยด้วยซ้ำที่มันส่งผลต่อธรรมาชาติและสิ่งแวดล้อม ก็เลยคิดว่าจะนำเอาเศษอาหารพวกนี้นำมาทำปุ๋ยแล้วนำไปเพาะปลูกอาหารแล้วหากมีส่วนเหลือก็นำกลับมาทำปุ๋ยอีกครั้งให้หมุนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตอนนี้อยู่ระหว่างการวางแผนกับผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่มีความรู้ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช่คู่แข่ง แต่เราทำเพื่อช่วยเหลือกัน คาดว่าจะได้เห็นกันในปีหน้าครับ”

เรื่องการช่วยเหลือสังคมนั้น เป็นสิ่งที่เด็กหนุ่มจากมาสเตอร์เชฟจูเนียร์ไทยแลนด์ได้รับการชี้แนะจากครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก อย่างการช่วยเหลือคนอื่นผ่านการให้ หรือการบริจาคไปกับโรงพยาบาลและผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือที่หลากหลาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถสอน และพากันทำได้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ

มาร์คสร้างโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือมาแล้วมากมายนับตั้งแต่ยังมีคำนำหน้าว่า เด็กชาย อาทิ เคยช่วยขายผลิตภัณฑ์จากภาพวาดโดยผู้ป่วยออทิสติกแล้วนำรายได้นั้นไปมอบให้กับศิริราชมูลนิธิ หรือโครงการ “FOOD FOR GOOD พี่อิ่มท้อง น้องอิ่มด้วย” โดยมูลนิธิยุวพัฒน์ ที่มีเป้าหมายเพื่อ “ลดจำนวนเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ” หรืออื่นๆ เช่น ยูนิเซฟ และเมอร์ซิเดส เบนซ์ ที่ดูแลเรื่องอาหารของเด็ก เป็นต้น

“ทางบ้านพาทำเรื่องการช่วยเหลือการบริจาคมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ส่วนใหญ่จะทำช่วงวันเกิด และหลังจากที่เราร่วมรายการ มาสเตอร์เชฟจูเนียร์ไทยแลนด์ ทำให้มี cooking event หลายจังหวัดทั่วประเทศ  ก็มีฐานแฟนคลับเพิ่มขึ้น เราเลยถือโอกาสนี้สร้างกิจกรรมและร่วมบริจาคร่วมกัน และการได้ลงไปทำงานจริงๆ ก็ทำให้เราเห็นปัญหา เช่น ทำโครงการร่วมกับ “FOOD FOR GOOD พี่อิ่มท้อง น้องอิ่มด้วย” ซึ่งที่เราตัดสินใจร่วมงานด้วย เพราะเป็นโปรแกรมที่น่าสนใจเพราะเกี่ยวกับอาหารและเขาก็นำเงินไปช่วยโครงการอาหารกลางวันสำหรับเด็กที่โรงเรียนที่จังหวัดเลย มาร์คก็มีโอกาสได้เข้าไปดูงานที่โรงเรียนนั้นด้วย ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่และได้เห็นว่า ปัญหามีอยู่จริง และเงินที่เราเอาเข้าไปช่วยก็พัฒนาตรงนั้นได้จริง ซึ่งมันไม่ใช่แค่การบริจาคเงินให้แล้วทางโรงเรียนไปจัดการกันเอง แต่มีการสร้างระบบให้ทั้งหมด ทำให้หลังจากนั้น เขาก็สามารถดำเนินการต่อเองได้ โดยที่เราไม่ต้องเข้าไปช่วยดูแลด้วยครับ และในปีหน้ามาร์คก็จะมีโครงการร่วมกับที่นี่อีกครั้งครับ”

“การช่วยเหลือสังคมไม่ใช่หน้าที่ที่ใครจะมาบังคับได้ว่า เราต้องทำนะ แต่มาร์คเห็นปัญหาที่มีอยู่จริง เลยอยากจะช่วย มาร์คอยากช่วยอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้อยากช่วยจริง เราให้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์ มันต้องเริ่มจากตัวเองที่อยากจะช่วยก่อน”

“พ่อแม่สอนตั้งแต่เด็กว่า ถ้าเราได้อะไรแล้ว ก็มองย้อนไปที่สังคมบ้าง แล้วกลับไปช่วยเหลือเขากลับบ้าง”

การได้มายืนในจุดที่มีแฟนคลับ มีชื่อเสียงนั้น ก็เหมือนกับสิ่งที่สังคม หรือแฟนๆ มอบโอกาสและความพร้อมในช่วยเหลือคนอื่นให้มากยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นครอบครัวของมาร์คจึงไม่ลืมที่จะย้ำอีกว่า

“ได้มาแล้ว ก็ต้องให้คืนบ้างครับ”

ติดตามโปรเจกต์ใหม่ๆ ของเชฟมาร์คได้ที่เฟซบุ๊ก : Mark Kidchen

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้และ นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า