เมื่อนวัตกรรมก้าวหน้า เทคโนโลยีก้าวไกล ทำให้อะไรๆ ก็ง่ายจริงหรือ?
ในยุคที่ทุกวินาที่จะเกิดการเปลี่ยนผ่านจากอะนาล็อกไปสู่ดิจิทัลทุกขณะ หลากหลาย ‘อาชีพออนไลน์’ ถูกเอ่ยชื่อขึ้นมาบ่อยๆ เมื่อพูดถึงสิ่งที่สร้างรายได้ได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน หรืออาชีพที่ทำเงินจากที่ไหนก็ได้ ง่ายนิดเดียว?
‘นักเขียน’ ก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อถูกพูดถึง passive income หรือความง่ายที่จะสร้างงานสร้างรายได้ เพราะถูกปูทางด้วยคำว่า ebook มานานหลายปีแล้ว ทำให้กลายเป็นอาชีพที่หลายคนตั้งแต่นักเรียน นักศึกษา และคนทั่วไปหันมามองหมายจะยึดเป็นอาชีพหลัก
แต่ข้อมูลเหล่านั้นมันถูกต้องจริงหรือไม่?
“มันมีทั้งโอกาสและข้อจำกัดค่ะ” บุญญานี จงทวีพรมงคล เจ้าของนามปากกา ‘หนูแดง’ ‘หนูแดงตัวน้อย’ และ ‘บุญญานี จงทวีพรมงคล’ นักเขียนอาชีพที่มีนิยายตีพิมพ์มากกว่าร้อยเรื่อง ทั้งยังเป็นวิทยากรและอาจารย์พิเศษเกี่ยวกับการเขียนนิยายทุกแขนงให้ทัศนะกับเราไว้
บุญญานีเข้าวงการตั้งแต่เมื่อ 15 ปีก่อน ตอนที่ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และจากประสบการณ์ที่คร่ำหวอดนี้เองทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในแวดวงวรรณศิลป์แห่งนี้ว่า แม้จะถูกเอ่ยถึงบ่อยครั้ง แต่อาชีพเขียนนิยายนั้น ต้อนรับเฉพาะคนที่ ‘อยู่ได้’ ส่วนจะอยู่ได้จริงหรือไม่ คนที่เข้ามาจะเป็นผู้ตัดสินเอง
“ตอนที่หนูแดงเข้ามามันเป็นยุคกลางๆ ของอาชีพนี้ เป็นยุคที่มีเว็บไซต์เอาไว้ลงนิยายเพื่อให้แมวมองให้สำนักพิมพ์ได้มาเจอ แล้วติดต่อขอไปพิมพ์เล่ม ซึ่งก็จะมีกระบวนการหลายขั้นตอน บางครั้งผ่านพิจารณารอบแรกจากบรรณาธิการคัดสรรแล้ว แต่ไม่ผ่านในขั้นตอนสุดท้ายก็มี จนกระทั่งได้ตีพิมพ์หนังสือจึงจะเรียกว่าเป็นนักเขียนได้ ขณะที่สมัยนี้ทุกคนมีแพล็ตฟอร์มที่จะสามารถเดบิวต์เป็นนักเขียนได้ด้วยตัวเองทุกเวลาโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง อยากจะขายมันทำได้ทันทีและสามารถพัฒนาเป็นอาชีพจริงจังได้ และมีรายได้เป็นกอบเป็นกำได้”
แต่เพราะไอ้ตรงนี้แหละมันก็เลยกลายเป็นแง่ลบว่า พอคนมองว่า มันดูเหมือนมันง่าย แค่คิดว่าก็เขียนออกสบายๆ คนก็เลยกระโดดเข้ามาทำเยอะ แต่ในความจริงมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอก เพราะพอคนเข้ามาเยอะก็จะเกิดการแย่งเค้ก ต้องทำยังไงก็ได้ให้งานดี และผ่านตาคนคนอ่านมากที่สุด ซึ่งนี่แหละ มันจะเป็นสงครามในด่านแรก ทำให้บางคนเข้ามาแล้วมาเจอระบบ มาเจอขั้นตอนการทำงานของนักเขียนที่เหมือนง่ายแต่จริง ๆ มันยาก ก็ล้มหายตายจากไป”
“บางคนทำงานเขียนมา 2-3 ปี แล้วไม่ปังก็กลับไปทำงานประจำ หรือบางคนเครียดอยู่ไม่ไหว เนื่องจากต้องผลิตผลงานออกมาตลอด เพราะสมัยนี้เป็นช่วงปลาเร็วกินปลาช้า มันก็จะทำให้หมดไฟบ้างอะไรบ้าง ตัวหนูแดงเองก็มีบางช่วงที่ไปทำงานอื่นเสริมเพื่อหนีอาการเบิร์นเอาท์ เราต้องเร่งงาน ต้องออกผลงานใหม่เร็ว ต้องสร้างฐานแฟน ต้องโปรโมต ฯลฯ คือสมัยนี้เป็นนักเขียนอย่างเดียวไม่ได้แล้ว มันเป็นเรื่องผลประโยชน์ ชื่อเสียง มันต้องมีการตลาด ขายงาน ขายตัวเองเป็นด้วย ไม่ใช่เขียนแล้วจบ แล้วมันจะเครียด ทำให้เกิดอาการไรเตอร์บล็อก ซึ่งส่งผลต่อการเจ็บป่วยทั้งกายและใจ หนูเชื่อว่าคนเราจะทำงานเขียน งานสร้างสรรค์บนความเครียดได้ยาก บางคนรับมือได้ บางคนไม่ได้ก็หายไปจากวงการ”
แต่ทั้งนี้นักเขียนเจ้าของรางวัลมากมายก็ไม่ได้สนับสนุนให้คนที่ตั้งใจเข้าวงการนักเขียนท้อไปเสียก่อน เพียงแต่ต้องหาวิธีการที่ถูกต้องสำหรับชีวิตการเป็นนักเขียนที่ทั้งมีความสุขและมีรายได้ด้วย
“สำหรับคนที่มองว่ามันง่าย รวมถึงทุกคนด้วย หนูแดงอยากจะให้ลองเข้ามาทำก่อนโดยที่ยังไม่ต้องทิ้งการเรียน หรือการงานที่ทำอยู่ ลองแบ่งเวลาดูก่อน ให้มีรายได้มั่นคงจากตรงนี้ก่อน ความมีวินัยและยืนยาวต่อเนื่องเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นน้องนักเรียน นักศึกษาหรือว่าคนที่ทำงานแล้ว แล้วอยากจะเข้ามาเขียนนิยาย อยากให้แบ่งเวลาทำอย่างต่อเนื่องทุกวัน อย่างของหนูแดงอย่างน้อยต้องได้วันละ 1 ตอน หรือประมาณ 7-10 หน้า เอ4 สำหรับคนอื่นอาจจะกำหนดเป็นช่วงเวลาก็ได้ คือเราต้องหาช่วงเวลาที่เรียกว่า เป็นช่วงไพร์มไทม์ของเรา มนุษย์เราจะมีช่วงหัวไบร์ทที่สุดประมาณ 4 ชั่วโมงต่อวัน บางคนเป็นช่วงเช้า บางคนเป็นช่วงกลางคืน
และเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า วงการนี้ไม่มีทางลัด ต่อให้อยู่ดีๆ วันหนึ่งมีคนเอานิยายเราไปรีวิวทำให้มีกระแส แต่วันหนึ่งมันก็จะหายไปถ้างานเราไม่ได้คุณภาพ เราตอ้งทำยังไงก็ได้ให้งานมันสนุก มีมาตรฐานมากพอ ให้คนหยิบอ่าน แล้วเราก็พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ถ้าต่อไปมันถูกยกไปรีวิว ไปบอกต่อ มันจะได้ไม่โดนคำครหาที่ ‘งานแบบนี้เหรอที่คนแนะนำ’ มันจะมีแต่ ‘นี่เรื่องนี้สนุก อ่านแล้วอยากติดตามต่อ’ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มต้นเขียนหรือเขียนมานานแล้ว ทางเดียวที่ต้องทำคือ เขียนต่อไป มีวินัย อดทน เราเขียนร้อยเรื่อง ไม่มีทางที่จะปังทั้งร้อยเรื่อง มันจะมีน้อยชิ้นมากที่ได้รางวัล น้อยชิ้นมากที่มีคนพูดถึง และบางทีก็ดังแบบเฉพาะกลุ่ม เพราะฉะนั้น เราต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ ฝึกเขียนไปเรื่อยๆ”
“แต่ถ้าหากว่าวันหนึ่งเกิดความเครียดสะสม สิ่งที่หนูแดงทำคือ ไม่ทำงาน นักเขียนส่วนใหญ่ทำงานในห้องคนเดียว แต่ธรรมชาติของมนุษย์ มันต้องออกไปสูดอากาศ เจอแสงแดด ไปเจอผู้คน การไปแบบนี้ ทำให้เกิดไอเดียด้วยนะ บางสถานที่ บางเรื่อง บางอย่าง หรือบางประโยคที่คนอื่นพูดมา มันจะจุดประกายไอเดียของเราด้วย ตรงนี้อาจจะไม่ได้เหมือนกันทุกคน ก็ลองไปหาดูว่า วิธีการผ่อนคลายที่ดีที่สุดสำหรับเราคืออะไร ให้ลุยไปทำสิ่งนั้นจนเบื่อ พอเบื่อแล้วเนี่ย มันจะอยากกลับมาทำงานเขียนเอง”
“จริงๆ รู้สึกยินดีมากเลยที่มีคนสนใจและอยากจะเข้ามาเป็นนักเขียน เพราะว่ามันเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่ส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน เพราะในไทยเรามักจะมีคนพูดประมาณว่า การอ่านของเราไม่ค่อยเจริญเติบโต แต่ว่าตอนนี้เราเห็นว่าหลายคนสนใจที่จะเขียน อยากมาทำ แม้ว่าในตอนแรกเริ่มอาจจะสนใจเรื่องรายได้ อยากแนะนำว่าใครอยากจะเขียนให้เขียนเลย ให้ลองกระโดดเข้ามา มันอาจจะดี หรือไม่ดี ตัวเราเองก็พูดไม่ได้ สำหรับหนูแดงวงการนี้ดี เพราะเป็นสิ่งที่เรารัก เป็นสิ่งที่เราทุ่มมาก อยู่กับมันทุกวัน ทั้งเขียน ทั้งสอนด้วย เวลาเราเห็นเด็กๆ น้องๆ มาขอคำปรึกษา หรือเติบโตในทางงานเขียนที่เขาชอบ แม้ว่ามันจะเป็นงานเชิงบันเทิงคดี ที่ไม่ได้เป็นวรรณกรรมยากๆ ก็รู้สึกยินดีกับเขา เพราะเรารู้ว่ามันเป็นก้าวที่จะพัฒนาไปสู่งานเขียนรูปแบบอื่นๆ อีก หนูแดงเชื่อว่า สมมุติเขียนงานตอนอายุ18 เขียนต่อเนื่องมาจนอายุ 30 มันไม่มีทางเลยที่งานจะหยุดอยู่กับที่เหมือนตอนที่เราอายุ18 แต่มันจะพัฒนาไปเรื่อยๆ เขียนหลากหลายมากขึ้น มันเป็นก้าวที่ดี ใครสนใจก็อยากให้ลองเข้ามาดู ทำไปก็ไม่เสียหาย ถ้ามันไม่ใช่ หรือไม่ชอบ หยุดทำไปก็ไม่เป็นไร”
“แต่โดยส่วนตัวจะทำงานที่รักนี้ไปตลอดชีวิต หนูแดงเชื่อว่าการทำงานหนัก ขยัน สักวันมันต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”
ดูเหมือนว่าการเป็นนักเขียนนวนิยายออนไลน์ในปัจจุบันนี้จะไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไป และดูจะไม่เสียเปล่าหากเริ่มลงมือทำ ลองใช้ความมุ่งมั่น ความหลงใหล และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์เพื่อเล่าเรื่องราวของคุณทำให้โลกได้รู้จัก ขอให้มีความสุขกับการเขียน