‘อิน-เอม’ พี่น้องนักอนุรักษ์วัยเยาว์ ต่อยอดความรัก ‘เต่า’ สู่การช่วยเหลือในระดับชาติ!!

‘ความรัก’ ชักนำผู้คนสู่หลากหลายเรื่องราว เช่นเดียวกับสองพี่น้อง อิน-นายอริณชย์ ทองแตง วัย 16 ปี และ เอม-ด.ญ. อริสา ทองแตง วัย 14 ปี ผู้ริเริ่มโครงการ Below the Tides: Zero Starving Sea Turtles (อิ่มท้องน้องเต่า)  ที่มุ่งมั่นตั้งใจสานต่อความรัก สู่การเป็นผู้ให้ เพิ่มโอกาสรอดชีวิตของ ‘เต่าทะเล’ ให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อปรับสมดุลระบบนิเวศใต้ท้องทะเลไทยให้สมบูรณ์และยั่งยืน

“เต่าเป็นสัตว์ที่ผมชอบมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ผมเป็นคนที่ชอบสัตว์เลื้อยคลาน ชอบธรรมชาติ ผมกับเพื่อนเริ่มชอบเต่ามาตั้งแต่ช่วง 3 ขวบ ก็เลยไปซื้อมาเลี้ยงกัน พอเลี้ยงมาเรื่อยๆ ก็เลยมีมากขึ้น และทำให้ผมชอบเต่ามากขึ้น ก็เลยอยากนำความชอบตรงนี้ มาต่อยอดเพื่อให้มีประโยชน์ต่อสังคมครับ” พี่ชายเปิดอกเล่า ก่อนที่น้องสาวจะเสริม

“ที่บ้านจะสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากค่ะ เรามีบ้านอยู่ริมคลอง เด็กๆ ก็จะมีโอกาสได้ช่วยคุณย่าเก็บขยะริมคลอง และคุณย่าก็จะสอนเราเรื่องนี้มาตลอด ว่าจริงๆ มนุษย์เราเป็นคนทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย และต่างๆ คุณย่าจะสอนว่าเราต้องทำยังไง เพื่อช่วยตรงนี้ได้บ้าง แล้วจำได้ว่า วันเกิดของพี่อิน คุณยายก็ซื้อเต่ามาให้เลี้ยงด้วย หลังจากนั้นพวกเราก็ได้ช่วยกันดูแลเต่ามาตลอดค่ะ”

และจากการเฝ้าดู นำไปสู่ความรับผิดชอบ เมื่อพบว่าแต่ละปีประเทศไทยต้องสูญเสียเต่าทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้ความคิดที่จะดูแลเต่าในสโคปที่กว้างออกไปปรากฏขึ้นในใจของทั้งคู่

“เราได้ไปเรียนดำน้ำ scuba diving ที่เกาะมันในกันค่ะ เป็น diving สำหรับลงไปปลูกปะการัง แล้วหนูได้เจอเต่า หนูมีความสุขมาก แฮบปี้ที่ได้เห็นเต่าอยู่ตามธรรมชาติ เขาดูมีความสุขที่ได้อยู่บ้านของเขา เราก็เลยรู้สึกว่าเรามีความรับผิดชอบ ที่จะต้องดูแลพวกเขา”

“เราไปดูที่ศูนย์วิจัยทางทะเลและชายฝั่ง ที่เกาะมันใน ไปดูเต่าทะเลที่นั่น ว่าปัญหาของเขามีอะไรบ้าง และเต่าที่นั่นต้องการอะไร เพราะการที่เต่าตาย และมีจำนวนลดลง จริงๆ ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมเยอะมากครับ เต่ามีความสำคัญต่อระบบนิเวศใต้น้ำ อย่างเช่น ช่วยควบคุมไม่ให้มีแมงกระพรุนมากเกินไป ช่วยกำจัดสาหร่ายที่มีเยอะเกิน และยังช่วยป้องกันการพังทลายของชายฝั่ง และอีกหลายๆ อย่าง ถ้าไม่มีเต่า ระบบนิเวศใต้น้ำของเราก็จะล้มเหลวครับ”

โครงการ Below the Tides: Zero Starving Sea Turtles (อิ่มท้องน้องเต่า) เริ่มต้นขึ้น ผ่านทาง ‘เทใจดอทคอม’ โดยผ่านเพื่อนคุณแม่ แล้วสองพี่น้องก็เริ่มลงมือทำ

“เราเปิดรับบริจาคผ่านทางเทใจครับ และบางครั้งเราก็มีไปออกบูธทำเสื้อขายด้วย เพื่อระดมเงินเข้าผ่านทางเทใจ และเมื่อครบจำนวนที่เราตั้งไว้ คือ 660,000 บาท เราก็จะนำไปให้ทางศูนย์วิจัยฯ (ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง)เพื่อจะได้ใช้เงินตรงนี้ดูแลลูกเต่าที่เขาอนุบาลไว้ เลี้ยงจนเต่าโตแข็งแรง และนำไปปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติครับ โอกาสรอดของเต่าทะเลจะมีมากขึ้น ก็ต่อเมื่อถูกปล่อยในช่วงวัยที่เหมาะสม นั่นคือโตเต็มวัย ซึ่งต้องใช้เวลาในการอนุบาลกว่า 200 วัน แต่เราได้ไปศึกษาข้อมูลที่ศูนย์วิจัยฯ ที่นั่นจะมีบ่อหลายขนาด มีตั้งแต่บ่อเลี้ยงเต่าตัวเล็กๆ จนถึงตัวใหญ่มาก กระดองยาวประมาณเมตรกว่าๆ คือเราจะเห็นได้เลยว่าในบ่อของตัวเล็กๆ จะมีเยอะกว่ามาก แต่พอโตมาจริงๆ จะเหลือแค่ 2-3 ตัวที่อยู่ในบ่อ เพราะด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง และเรื่องของอาหารที่ไม่เพียงพอ เพราะเต่ากินเยอะครับ พี่ๆ ที่ศูนย์ก็เลยจำต้องปล่อยเต่าไปก่อนกำหนด เพราะเลี้ยงไว้ก็อาจจะเสียชีวิตได้ ปล่อยไปอาจจะมีโอกาสรอดได้มากกว่า เราจึงทำโครงการนี้ เพื่อนำเงินไปให้กับทางศูนย์วิจัยฯ เพื่อที่จะสามารถเลี้ยงเต่า ได้จนโตเต็มวัย ในจำนวนที่มากขึ้นได้ครับ”

“ค่าอาหารเต่าแต่ละตัว จะตกวันละ 30 บาทค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าจะเลี้ยงดูเต่าจนโตพอที่จะปล่อยสู่ธรรมชาติอย่างปลอดภัย เพิ่มจำนวนเต่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ให้มีมากขึ้น เราต้องใช้เวลาอนุบาลเขาประมาณ 200 วัน เพื่อให้เต่ามีน้ำหนักได้ประมาณ 2 กิโลฯ ความยาวประมาณ 30 ซม. นั่นเท่ากับว่าเราต้องใช้เงินดูแลเต่า ตกตัวละ 6,000 บาท ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ”

แม้จะมีอุปสรรคบ้าง แต่ทั้งคู่ก็ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน

“อุปสรรรคงจะเป็นเรื่องของการกระจายข่าว การประชาสัมพันธ์ค่ะ เพราะว่าเราไม่รู้จะทำยังไงให้ทุกคนรู้จักโครงการนี้ แต่แล้วเราก็ดีใจมากๆ เลยค่ะ ที่มีโอกาสได้ทำงานกับพี่แอนโทเนีย โพซิ้ว (มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2023) เพราะพี่เขามีคนติดตามเยอะมาก ก็ดีใจที่ได้พี่เขามาช่วยชักชวนทุกคนให้ช่วยเหลือเต่ากันค่ะ”

“อินและเราก็ยังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยครับ หลังจากที่ได้ไปเข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.)  เพื่อนำเสนอโครงการนี้ และทางกระทรวงก็อยากช่วยสนับสนุน เพราะไม่ค่อยมีเด็กๆ ที่ตั้งใจอยากช่วยสิ่งแวดล้อมจริงจังแบบนี้ และเห็นว่าตรงนี้จะกลายเป็น Role Model(ต้นแบบ) ให้กับเด็กคนอื่นๆ ได้อีกด้วยครับ”

การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป ทั้งอินและเอมจึงอยากเชิญชวนทุกคนให้ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ที่ถูกทำลายมากขึ้นเรื่อยๆ

“ตอนนี้โลกเราร้อนขึ้นทุกๆ ปี น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ส่วนของทะเลเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่พื้นดินค่อยๆ หายไป ผมอยากให้ทุกคนตระหนักว่าทุกอย่างที่เราทำ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ก็อยากจะให้ทุกคนคิดก่อนทำครับ”

“อยากให้ทุกคนมองว่า ถึงจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าเราแค่เริ่ม และพยายามช่วย ก็ถือว่าเราได้มีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมแล้วค่ะ หรือจะเริ่มต้นด้วยการบริจาคให้กับโครงการอิ่มท้องน้องเต่าก็ได้นะคะ โดยสามารถบริจาคผ่านทางเว็บไซต์เทใจดอทคอม ซึ่งทุกบาททุกสตางค์ ไม่ว่าจะเยอะหรือน้อย ก็ล้วนมีความสำคัญต่อชีวิตของเต่าทุกตัวค่ะ”

ความตั้งใจอันแรงกล้าของเด็กๆ ทำให้เราต้องย้อนกลับมามองตัวเอง…วันนี้เราได้ทำอะไรเพื่อโลก เพื่อสิ่งแวดล้อมบ้างหรือยัง!?

ติดตามความคืบหน้าและเป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลกทะเลได้ที่

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้และ นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า