รบ.ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน-ประชาสังคมเปิดตัวกิจกรรมรับปิดเทอมรองรับ 450 กิจกรรม

ที่มา : สยามรัฐ

รบ.ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน-ประชาสังคมเปิดตัวกิจกรรมรับปิดเทอมรองรับ 450 กิจกรรม มีงานพิเศษ 3,000 ตำแหน่ง หวังดึงเด็กเยาวชนออกจากหน้าจอ หลังสำรวจพบ71% เล่นมือถือ-อินเตอร์เน็ต

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ได้มีการจัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ (เปิด) หน้าต่างสู่การเรียนรู้ โดยมี พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยความร่วมมือขององค์กรภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม โดยพล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนทุกช่วงวัยซึ่งในการพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชน รัฐบาลได้มีการพัฒนาเด็กตั้งแต่ปฐมวัยที่ครอบคลุมตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ยกระดับคุณภาพครูและสถานศึกษา ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพื่ออุดช่องว่างความเหลื่อมล้ำเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา สำหรับช่วงปิดเทอมที่มีช่วงเวลาเฉลี่ย 3 เดือนครึ่งต่อปี ที่เด็กเยาวชนกว่า 13 ล้านคน ต้องออกจากรั้วสถานศึกษา มีผลสำรวจที่น่าสนใจเรื่อง “ปิดเทอมนี้เด็กเยาวชนอยากทำอะไร” ในเดือนมีนาคม 2561 โดย สสส.ร่วมกับชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน จำนวน 1,760 ตัวอย่าง พบว่า กิจกรรมที่เด็กเยาวชนตั้งใจจะทำในช่วงปิดเทอม 3 อันดับแรก คือ เล่นมือถือ อินเตอร์เน็ต 71% ตามด้วยการไปเที่ยวต่างจังหวัด 53% และหางานพิเศษทำ 46%

“กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ที่จัดขึ้นจึงมีส่วนช่วยให้เด็กเยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็นของเด็กและเยาวชน รัฐบาลอยากให้ปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ร่วมกันตระหนักและเห็นคุณค่าในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ของเด็กเยาวชน โดยจัดกิจกรรมและเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชน โดยเฉพาะการเข้าถึงของเด็กเยาวชนที่ขาดโอกาสทางสังคม จนเกิดเป็นวาระเด็กเยาวชนในช่วงเวลาปิดเทอมร่วมกัน”พล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าว

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ทำให้ในช่วงปิดเทอมนี้มีกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่กระจายทุกภูมิภาคถึง 450 กิจกรรม แบ่งเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ 200 กิจกรรม และแหล่งเรียนรู้ถึง 250 แห่ง รวมถึงการเปิดรับตำแหน่งงานพิเศษ 3,000 ตำแหน่ง และการสนับสนุนทุนเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีโอกาสคิดริเริ่มกิจกรรมที่สนใจถึง 400 โครงการตลอดทั้งปี ทั้งหมดนี้รวบรวมอยู่ในเว็บไซด์ปิดเทอมสร้างสรรค์ดอทคอม เพื่อเป็นช่องทางให้เด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง ได้เข้าถึงกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่สนใจได้ง่ายขึ้น โดยสสส.ยินดีที่เป็นหน่วยประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆที่จัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์และพื้นที่สร้างสรรค์เพิ่มเติมเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน และถอดบทเรียนรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มวัยต่อไป

ดร.ปัญญา หาญลำยวง อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเห็นความสำคัญในการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ของเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอมจึงมอบหมายให้กรมพลศึกษาจัดกิจกรรมร้อนนี้มีกีฬาเพื่อลูกรักและร้อนนี้มีนันทนาการเพื่อลูกรัก เพื่อให้เล่นกีฬาและนันทนาการตามความถนัดและสนใจ ได้ออกกำลังกายและได้เรียนรู้ระเบียบวินัยและเคารพกฎในกติกา โดยสนับสนุนกีฬาและนันทนาการที่กระจายอยู่ในสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจำนวน 76 แห่ง เจ้าหน้าที่พลศึกษาอำเภอทั้ง 878 อำเภอ และร่วมกับสถานศึกษาในสังกัดสพฐ.หรือโรงเรียนเทศบาล เพื่อเปิดสอนกีฬาทั้งไทยและสากล รวมทั้งกิจกรรมนันทนาการตามความสนใจของผู้เรียน ส่วนในกทม.เปิดสอนในมีสนามกีฬาแห่งชาติและศูนย์ฝึกกีฬากรมพลศึกษา

นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนับสนุนกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์โดยได้มีการประชุมร่วมกับภาคเอกชนเพื่อขอความร่วมมือในการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์เป็นทางเลือกให้กับเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอม โดยเปิดรับตำแหน่งงานเพื่อหารายได้พิเศษ กว่า 3,000 ตำแหน่ง จากความร่วมมือของ 50 บริษัทเอกชนชั้นนำ ฝึกงานเพื่อค้นหาอาชีพที่ชอบ และมีการจัดค่ายส่งเสริมทักษะทางสังคมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมศักยภาพของเด็กเยาวชนไทย

ที่มา : https://www.siamrath.co.th/n/32367

สสส.จัดเต็ม 450 กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์-ดึงเด็กพ้นหน้าจอ

ที่มา : บ้านเมือง

เปิดตัวกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม รองรับ 450 กิจกรรม งานพิเศษ 3,000 ตำแหน่ง หวังดึงเด็กเยาวชนออกจากหน้าจอ เผยผลสำรวจพบการใช้เวลาเด็กเยาวชนไทยในช่วงปิดเทอม 71% เล่นมือถือ-อินเตอร์เน็ต

วันที่ 12 มี.ค. ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ได้มีการจัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ (เปิด) หน้าต่างสู่การเรียนรู้ โดยมี พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยความร่วมมือขององค์กรภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม

พล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนทุกช่วงวัยซึ่งในการพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชน รัฐบาลได้มีการพัฒนาเด็กตั้งแต่ปฐมวัยที่ครอบคลุมตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ยกระดับคุณภาพครูและสถานศึกษา ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพื่ออุดช่องว่างความเหลื่อมล้ำเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา สำหรับช่วงปิดเทอมที่มีช่วงเวลาเฉลี่ย 3 เดือนครึ่งต่อปี ที่เด็กเยาวชนกว่า 13 ล้านคน ต้องออกจากรั้วสถานศึกษา มีผลสำรวจที่น่าสนใจเรื่อง “ปิดเทอมนี้เด็กเยาวชนอยากทำอะไร” ในเดือนมีนาคม 2561 โดย สสส.ร่วมกับชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน จำนวน 1,760 ตัวอย่าง พบว่า กิจกรรมที่เด็กเยาวชนตั้งใจจะทำในช่วงปิดเทอม 3 อันดับแรก คือ เล่นมือถือ อินเตอร์เน็ต 71% ตามด้วยการไปเที่ยวต่างจังหวัด 53% และหางานพิเศษทำ 46%

“กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ที่จัดขึ้นจึงมีส่วนช่วยให้เด็กเยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็นของเด็กและเยาวชน รัฐบาลอยากให้ปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ร่วมกันตระหนักและเห็นคุณค่าในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ของเด็กเยาวชน โดยจัดกิจกรรมและเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชน โดยเฉพาะการเข้าถึงของเด็กเยาวชนที่ขาดโอกาสทางสังคม จนเกิดเป็นวาระเด็กเยาวชนในช่วงเวลาปิดเทอมร่วมกัน”พล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าว

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ทำให้ในช่วงปิดเทอมนี้มีกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่กระจายทุกภูมิภาคถึง 450 กิจกรรม แบ่งเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ 200 กิจกรรม และแหล่งเรียนรู้ถึง 250 แห่ง รวมถึงการเปิดรับตำแหน่งงานพิเศษ 3,000 ตำแหน่ง และการสนับสนุนทุนเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีโอกาสคิดริเริ่มกิจกรรมที่สนใจถึง 400 โครงการตลอดทั้งปี ทั้งหมดนี้รวบรวมอยู่ในเว็บไซด์ปิดเทอมสร้างสรรค์ดอทคอม เพื่อเป็นช่องทางให้เด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง ได้เข้าถึงกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่สนใจได้ง่ายขึ้น โดยสสส.ยินดีที่เป็นหน่วยประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆที่จัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์และพื้นที่สร้างสรรค์เพิ่มเติมเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน และถอดบทเรียนรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มวัยต่อไป

ดร.ปัญญา หาญลำยวง อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเห็นความสำคัญในการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ของเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอมจึงมอบหมายให้กรมพลศึกษาจัดกิจกรรมร้อนนี้มีกีฬาเพื่อลูกรักและร้อนนี้มีนันทนาการเพื่อลูกรัก เพื่อให้เล่นกีฬาและนันทนาการตามความถนัดและสนใจ ได้ออกกำลังกายและได้เรียนรู้ระเบียบวินัยและเคารพกฎในกติกา โดยสนับสนุนกีฬาและนันทนาการที่กระจายอยู่ในสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจำนวน 76 แห่ง เจ้าหน้าที่พลศึกษาอำเภอทั้ง 878 อำเภอ และร่วมกับสถานศึกษาในสังกัดสพฐ.หรือโรงเรียนเทศบาล เพื่อเปิดสอนกีฬาทั้งไทยและสากล รวมทั้งกิจกรรมนันทนาการตามความสนใจของผู้เรียน ส่วนในกทม.เปิดสอนในมีสนามกีฬาแห่งชาติและศูนย์ฝึกกีฬากรมพลศึกษา

นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนับสนุนกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์โดยได้มีการประชุมร่วมกับภาคเอกชนเพื่อขอความร่วมมือในการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์เป็นทางเลือกให้กับเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอม โดยเปิดรับตำแหน่งงานเพื่อหารายได้พิเศษ กว่า 3,000 ตำแหน่ง จากความร่วมมือของ 50 บริษัทเอกชนชั้นนำ ฝึกงานเพื่อค้นหาอาชีพที่ชอบ และมีการจัดค่ายส่งเสริมทักษะทางสังคมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมศักยภาพของเด็กเยาวชนไทย

นางซองทิพย์ เสริมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายมิวเซียมสยาม กล่าวว่า ในช่วงปิดเทอมเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเรียนรู้บนโลกกว้าง ซึ่งพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้เวลาว่างของเด็กๆ ในช่วงปิดเทอม เติมเต็มมากยิ่งขึ้น พิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งได้เตรียมกิจกรรมรองรับเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอม ทั้งพิพิธภัณฑ์ของกรมศิลปากร ห้องสมุดมีชีวิตของทีเคพาร์ค นิทรรศรัตนโกสินทร์ ค่ายวิทยาศาสตร์ของ อพวช. ซึ่งในแต่ละพื้นที่ได้จัดกิจกรรมไว้รองรับ รวมถึงเนื้อหานิทรรศการที่หมุนเวียนเพื่อให้เด็กเยาวชนได้มาใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมิวเซียมสยามมีการรวบรวมบัตรท่องเที่ยวนิทรรศการในชื่อ Muse pass บัตรเดียวเที่ยว 63 พิพิธภัณฑ์ทั่วไทย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในการพาบุตรหลานเข้าชมนิทรรศการ

นายมานิตย์ มณีธรรม รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า สภาเด็กและเยาวชนเป็นกลไกหลักในการสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ และตำบลทั่วประเทศ ความร่วมมือของกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์กรมกิจการเด็กและเยาวชน โดยสภาเด็กและเยาวชน เครือข่ายเด็กและเยาวชน DJ Teen จะเป็นกลไกขับเคลื่อนกิจกรรมสร้างสรรค์ใน 3 มิติ คือการป้องกันและแก้ไขปัญหา การพัฒนาตนเอง และการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่น ซึ่งส่งผลให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงไม่ตกเป็นเหยื่อหรือสร้างปัญหาให้กับสังคม แต่เป็นผู้พร้อมที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนาประเทศชาติ

ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า ในฐานะเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตด้านวิทยาศาสตร์ จึงเข้าร่วมในโครงการปิดเทอมสร้างสรรค์ ที่ดำเนินงานโดย สสส. ต่อเนื่องเป็น ปีที่ 3 ซึ่งในปีนี้นอกจากเด็ก ๆ จะสามารถมาเรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างสนุกสนานในพิพิธภัณฑ์ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีกิจกรรมพิเศษ อาทิ มาทดลองสวมบทบาทเป็นสายลับสุดท้าทายไปกับนิทรรศการ “Spy : Code Breaker” “ปฏิทินจันทรคติไทย 200 ปี” กิจกรรม “enjoy maker space” ชมตัวอย่างการ สตัฟฟ์สัตว์ ร่วมเรียนรู้ไปกับนิทรรศการที่มองไม่เห็น “บทเรียนในความมืด : Dialogue in the Dark” นิทรรศการจากประเทศเยอรมันที่จะทำให้เราใช้หัวใจนำทาง ฯลฯ โดยทุกกิจกรรมเน้นการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษารองรับเยาวชนที่จะเข้ามาใช้บริการในช่วงปิดเทอม

สำหรับความร่วมมือกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ กระทรวงศึกษาธิการ อพวช. กรมศิลากร มิวเซียมสยาม ทีเคพาร์ค ปปส. สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ องค์กรภาคเอกชน โดยการเชื่อมโยงความร่วมมือของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เทสโก้โลกัส คิสซาเนีย อะเดย์ เป็นต้น  และเครือข่ายภาคประชาสังคม อาทิ ธนาคารจิตอาสา เครือข่ายนับเราด้วยคน มิวสิคแชร์ลิ่ง เป็นต้น ดูรายละเอียดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ได้ที่ www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com หรือ Facebook: Happy Schoolbreak

ที่มา : http://www.banmuang.co.th/news/bangkok/105196

ภาครัฐ-เอกชน-ประชาสังคม เปิดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ หวังดึงเยาวชนจากหน้าจอ

ที่มา : ผู้จัดการรายสัปดาห์

เปิดตัวกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม รองรับ 450 กิจกรรม งานพิเศษ 3,000 ตำแหน่ง หวังดึงเด็กเยาวชนออกจากหน้าจอ เผยผลสำรวจพบการใช้เวลาเด็กเยาวชนไทยในช่วงปิดเทอม 71% เล่นมือถือ-อินเทอร์เน็ต

วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ได้มีการจัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ (เปิด) หน้าต่างสู่การเรียนรู้ โดยมี พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยความร่วมมือขององค์กรภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม

พล.อ.ปัฐมพงศ์กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนทุกช่วงวัยซึ่งในการพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชน รัฐบาลได้มีการพัฒนาเด็กตั้งแต่ปฐมวัยที่ครอบคลุมตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ยกระดับคุณภาพครูและสถานศึกษา ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพื่ออุดช่องว่างความเหลื่อมล้ำเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา สำหรับช่วงปิดเทอมที่มีช่วงเวลาเฉลี่ย 3 เดือนครึ่งต่อปี ที่เด็กเยาวชนกว่า 13 ล้านคน ต้องออกจากรั้วสถานศึกษา มีผลสำรวจที่น่าสนใจเรื่อง “ปิดเทอมนี้เด็กเยาวชนอยากทำอะไร” ในเดือนมีนาคม 2561 โดย สสส.ร่วมกับชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน จำนวน 1,760 ตัวอย่าง พบว่า กิจกรรมที่เด็กเยาวชนตั้งใจจะทำในช่วงปิดเทอม 3 อันดับแรก คือ เล่นมือถือ อินเทอร์เน็ต 71% ตามด้วยการไปเที่ยวต่างจังหวัด 53% และหางานพิเศษทำ 46%

“กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ที่จัดขึ้นจึงมีส่วนช่วยให้เด็กเยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็นของเด็กและเยาวชน รัฐบาลอยากให้ปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ร่วมกันตระหนักและเห็นคุณค่าในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ของเด็กเยาวชน โดยจัดกิจกรรมและเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชน โดยเฉพาะการเข้าถึงของเด็กเยาวชนที่ขาดโอกาสทางสังคม จนเกิดเป็นวาระเด็กเยาวชนในช่วงเวลาปิดเทอมร่วมกัน” พล.อ.ปัฐมพงศ์กล่าว

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ทำให้ในช่วงปิดเทอมนี้มีกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่กระจายทุกภูมิภาคถึง 450 กิจกรรม แบ่งเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ 200 กิจกรรม และแหล่งเรียนรู้ถึง 250 แห่ง รวมถึงการเปิดรับตำแหน่งงานพิเศษ 3,000 ตำแหน่ง และการสนับสนุนทุนเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีโอกาสคิดริเริ่มกิจกรรมที่สนใจถึง 400 โครงการตลอดทั้งปี ทั้งหมดนี้รวบรวมอยู่ในเว็บไซต์ปิดเทอมสร้างสรรค์ดอตคอม เพื่อเป็นช่องทางให้เด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง ได้เข้าถึงกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่สนใจได้ง่ายขึ้น โดย สสส.ยินดีที่เป็นหน่วยประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่จัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์และพื้นที่สร้างสรรค์เพิ่มเติมเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน และถอดบทเรียนรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มวัยต่อไป

ดร.ปัญญา หาญลำยวง อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเห็นความสำคัญในการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ของเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอมจึงมอบหมายให้กรมพลศึกษาจัดกิจกรรมร้อนนี้มีกีฬาเพื่อลูกรักและร้อนนี้มีนันทนาการเพื่อลูกรัก เพื่อให้เล่นกีฬาและนันทนาการตามความถนัดและสนใจ ได้ออกกำลังกายและได้เรียนรู้ระเบียบวินัยและเคารพกฎในกติกา โดยสนับสนุนกีฬาและนันทนาการที่กระจายอยู่ในสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวน 76 แห่ง เจ้าหน้าที่พลศึกษาอำเภอทั้ง 878 อำเภอ และร่วมกับสถานศึกษาในสังกัด สพฐ. หรือโรงเรียนเทศบาล เพื่อเปิดสอนกีฬาทั้งไทยและสากล รวมทั้งกิจกรรมนันทนาการตามความสนใจของผู้เรียน ส่วนใน กทม.เปิดสอนในมีสนามกีฬาแห่งชาติและศูนย์ฝึกกีฬากรมพลศึกษา

นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนับสนุนกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์โดยได้มีการประชุมร่วมกับภาคเอกชนเพื่อขอความร่วมมือในการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์เป็นทางเลือกให้กับเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอม โดยเปิดรับตำแหน่งงานเพื่อหารายได้พิเศษ กว่า 3,000 ตำแหน่ง จากความร่วมมือของ 50 บริษัทเอกชนชั้นนำ ฝึกงานเพื่อค้นหาอาชีพที่ชอบ และมีการจัดค่ายส่งเสริมทักษะทางสังคมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมศักยภาพของเด็กเยาวชนไทย

นางซองทิพย์ เสริมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายมิวเซียมสยาม กล่าวว่า ในช่วงปิดเทอมเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเรียนรู้บนโลกกว้าง ซึ่งพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้เวลาว่างของเด็กๆ ในช่วงปิดเทอมเติมเต็มมากยิ่งขึ้น พิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งได้เตรียมกิจกรรมรองรับเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอม ทั้งพิพิธภัณฑ์ของกรมศิลปากร ห้องสมุดมีชีวิตของทีเคพาร์ค นิทรรศรัตนโกสินทร์ ค่ายวิทยาศาสตร์ของ อพวช. ซึ่งในแต่ละพื้นที่ได้จัดกิจกรรมไว้รองรับ รวมถึงเนื้อหานิทรรศการที่หมุนเวียนเพื่อให้เด็กเยาวชนได้มาใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมิวเซียมสยามมีการรวบรวมบัตรท่องเที่ยวนิทรรศการในชื่อ Muse pass บัตรเดียวเที่ยว 63 พิพิธภัณฑ์ทั่วไทย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในการพาบุตรหลานเข้าชมนิทรรศการ

นายมานิตย์ มณีธรรม รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า สภาเด็กและเยาวชนเป็นกลไกหลักในการสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ และตำบลทั่วประเทศ ความร่วมมือของกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์กรมกิจการเด็กและเยาวชน โดยสภาเด็กและเยาวชน เครือข่ายเด็กและเยาวชน DJ Teen จะเป็นกลไกขับเคลื่อนกิจกรรมสร้างสรรค์ใน 3 มิติ คือ การป้องกันและแก้ไขปัญหา การพัฒนาตนเอง และการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่น ซึ่งส่งผลให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงไม่ตกเป็นเหยื่อหรือสร้างปัญหาให้กับสังคม แต่เป็นผู้พร้อมที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนาประเทศชาติ

ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า ในฐานะเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตด้านวิทยาศาสตร์ จึงเข้าร่วมในโครงการปิดเทอมสร้างสรรค์ ที่ดำเนินงานโดย สสส. ต่อเนื่องเป็น ปีที่ 3 ซึ่งในปีนี้นอกจากเด็กๆ จะสามารถมาเรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างสนุกสนานในพิพิธภัณฑ์ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีกิจกรรมพิเศษ อาทิ มาทดลองสวมบทบาทเป็นสายลับสุดท้าทายไปกับนิทรรศการ “Spy : Code Breaker” “ปฏิทินจันทรคติไทย 200 ปี” กิจกรรม “enjoy maker space” ชมตัวอย่างการ สตัฟฟ์สัตว์ ร่วมเรียนรู้ไปกับนิทรรศการที่มองไม่เห็น “บทเรียนในความมืด : Dialogue in the Dark” นิทรรศการจากประเทศเยอรมนีที่จะทำให้เราใช้หัวใจนำทาง ฯลฯ โดยทุกกิจกรรมเน้นการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษารองรับเยาวชนที่จะเข้ามาใช้บริการในช่วงปิดเทอม

สำหรับความร่วมมือกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ กระทรวงศึกษาธิการ อพวช. กรมศิลากร มิวเซียมสยาม ทีเคพาร์ค ปปส. สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ องค์กรภาคเอกชน โดยการเชื่อมโยงความร่วมมือของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เทสโก้โลกัส คิสซาเนีย อะเดย์ เป็นต้น และเครือข่ายภาคประชาสังคม อาทิ ธนาคารจิตอาสา เครือข่ายนับเราด้วยคน มิวสิคแชร์ลิ่ง เป็นต้น ดูรายละเอียดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ได้ที่ www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com หรือ Facebook: Happy Schoolbreak

ที่มา : http://www2.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9610000024829

ปิดเทอมสร้างสรรค์! สสส.จัด 450 กิจกรรม หวังดึงเด็กเยาวชนพ้นหน้าจอไอที

ที่มา : ไทยรัฐ
เปิดตัวกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม รองรับ 450 กิจกรรม งานพิเศษ 3,000 ตำแหน่ง หวังดึงเด็กเยาวชนออกจากหน้าจอ เผยผลสำรวจพบการใช้เวลาเด็กเยาวชนไทยในช่วงปิดเทอม 71% เล่นมือถือ-อินเทอร์เน็ต
เมื่อวันที่ 12 มี.ค.61 ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ได้มีการจัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ (เปิด) หน้าต่างสู่การเรียนรู้ โดยมี พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยความร่วมมือขององค์กรภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม
พล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนทุกช่วงวัย ซึ่งในการพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชน รัฐบาลได้มีการพัฒนาเด็กตั้งแต่ปฐมวัยที่ครอบคลุมตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ยกระดับคุณภาพครูและสถานศึกษา ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพื่ออุดช่องว่างความเหลื่อมล้ำเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา สำหรับช่วงปิดเทอมที่มีช่วงเวลาเฉลี่ย 3 เดือนครึ่งต่อปี ที่เด็กเยาวชนกว่า 13 ล้านคน ต้องออกจากรั้วสถานศึกษา มีผลสำรวจที่น่าสนใจเรื่อง “ปิดเทอมนี้เด็กเยาวชนอยากทำอะไร” ในเดือนมีนาคม 2561 โดย สสส.ร่วมกับชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน จำนวน 1,760 ตัวอย่าง พบว่า กิจกรรมที่เด็กเยาวชนตั้งใจจะทำในช่วงปิดเทอม 3 อันดับแรก คือ เล่นมือถือ อินเทอร์เน็ต 71% ตามด้วยการไปเที่ยวต่างจังหวัด 53% และหางานพิเศษทำ 46%
“กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ที่จัดขึ้นจึงมีส่วนช่วยให้เด็กเยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็นของเด็กและเยาวชน รัฐบาลอยากให้ปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ร่วมกันตระหนักและเห็นคุณค่าในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ของเด็กเยาวชน โดยจัดกิจกรรมและเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชน โดยเฉพาะการเข้าถึงของเด็กเยาวชนที่ขาดโอกาสทางสังคม จนเกิดเป็นวาระเด็กเยาวชนในช่วงเวลาปิดเทอมร่วมกัน” พล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าว
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ทำให้ในช่วงปิดเทอมนี้มีกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่กระจายทุกภูมิภาคถึง 450 กิจกรรม แบ่งเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ 200 กิจกรรม และแหล่งเรียนรู้ถึง 250 แห่ง รวมถึงการเปิดรับตำแหน่งงานพิเศษ 3,000 ตำแหน่ง และการสนับสนุนทุนเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีโอกาสคิดริเริ่มกิจกรรมที่สนใจถึง 400 โครงการตลอดทั้งปี ทั้งหมดนี้รวบรวมอยู่ในเว็บไซต์ปิดเทอมสร้างสรรค์ดอทคอม เพื่อเป็นช่องทางให้เด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง ได้เข้าถึงกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่สนใจได้ง่ายขึ้น โดย สสส.ยินดีที่เป็นหน่วยประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่จัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์และพื้นที่สร้างสรรค์เพิ่มเติม เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน และถอดบทเรียนรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มวัยต่อไป
ดร.ปัญญา หาญลำยวง อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเห็นความสำคัญในการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ของเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอม จึงมอบหมายให้กรมพลศึกษาจัดกิจกรรมร้อนนี้มีกีฬาเพื่อลูกรักและร้อนนี้มีนันทนาการเพื่อลูกรัก เพื่อให้เล่นกีฬาและนันทนาการตามความถนัดและสนใจ ได้ออกกำลังกายและได้เรียนรู้ระเบียบวินัยและเคารพกฎในกติกา โดยสนับสนุนกีฬาและนันทนาการที่กระจายอยู่ในสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจำนวน 76 แห่ง เจ้าหน้าที่พลศึกษาอำเภอทั้ง 878 อำเภอ และร่วมกับสถานศึกษาในสังกัดสพฐ. หรือโรงเรียนเทศบาล เพื่อเปิดสอนกีฬาทั้งไทยและสากล รวมทั้งกิจกรรมนันทนาการตามความสนใจของผู้เรียน ส่วนใน กทม.เปิดสอนในสนามกีฬาแห่งชาติและศูนย์ฝึกกีฬากรมพลศึกษานายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนับสนุนกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ โดยได้มีการประชุมร่วมกับภาคเอกชนเพื่อขอความร่วมมือในการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์เป็นทางเลือกให้กับเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอม โดยเปิดรับตำแหน่งงานเพื่อหารายได้พิเศษ กว่า 3,000 ตำแหน่ง จากความร่วมมือของ 50 บริษัทเอกชนชั้นนำ ฝึกงานเพื่อค้นหาอาชีพที่ชอบ และมีการจัดค่ายส่งเสริมทักษะทางสังคมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมศักยภาพของเด็กเยาวชนไทยนางซองทิพย์ เสริมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายมิวเซียมสยาม กล่าวว่า ในช่วงปิดเทอมเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเรียนรู้บนโลกกว้าง ซึ่งพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้เวลาว่างของเด็กๆ ในช่วงปิดเทอม เติมเต็มมากยิ่งขึ้น พิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งได้เตรียมกิจกรรมรองรับเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอม ทั้งพิพิธภัณฑ์ของกรมศิลปากร ห้องสมุดมีชีวิตของทีเคพาร์ค นิทรรศรัตนโกสินทร์ ค่ายวิทยาศาสตร์ของ อพวช. ซึ่งในแต่ละพื้นที่ได้จัดกิจกรรมไว้รองรับ รวมถึงเนื้อหานิทรรศการที่หมุนเวียนเพื่อให้เด็กเยาวชนได้มาใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมิวเซียมสยามมีการรวบรวมบัตรท่องเที่ยวนิทรรศการในชื่อ Muse pass บัตรเดียวเที่ยว 63 พิพิธภัณฑ์ทั่วไทย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในการพาบุตรหลานเข้าชมนิทรรศการนายมานิตย์ มณีธรรม รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า สภาเด็กและเยาวชนเป็นกลไกหลักในการสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ และตำบลทั่วประเทศ ความร่วมมือของกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์กรมกิจการเด็กและเยาวชน โดยสภาเด็กและเยาวชน เครือข่ายเด็กและเยาวชน DJ Teen จะเป็นกลไกขับเคลื่อนกิจกรรมสร้างสรรค์ใน 3 มิติ คือการป้องกันและแก้ไขปัญหา การพัฒนาตนเอง และการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่น ซึ่งส่งผลให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงไม่ตกเป็นเหยื่อหรือสร้างปัญหาให้กับสังคม แต่เป็นผู้พร้อมที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนาประเทศชาติ

ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า ในฐานะเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตด้านวิทยาศาสตร์ จึงเข้าร่วมในโครงการปิดเทอมสร้างสรรค์ ที่ดำเนินงานโดย สสส. ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งในปีนี้นอกจากเด็กๆ จะสามารถมาเรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างสนุกสนานในพิพิธภัณฑ์ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีกิจกรรมพิเศษ อาทิ มาทดลองสวมบทบาทเป็นสายลับสุดท้าทายไปกับนิทรรศการ “Spy : Code Breaker” “ปฏิทินจันทรคติไทย 200 ปี” กิจกรรม “enjoy maker space” ชมตัวอย่างการสตัฟฟ์สัตว์ ร่วมเรียนรู้ไปกับนิทรรศการที่มองไม่เห็น “บทเรียนในความมืด : Dialogue in the Dark” นิทรรศการจากประเทศเยอรมนีที่จะทำให้เราใช้หัวใจนำทาง ฯลฯ โดยทุกกิจกรรมเน้นการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษารองรับเยาวชนที่จะเข้ามาใช้บริการในช่วงปิดเทอม

สำหรับความร่วมมือกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ กระทรวงศึกษาธิการ อพวช. กรมศิลากร มิวเซียมสยาม ทีเคพาร์ค ปปส. สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ องค์กรภาคเอกชน โดยการเชื่อมโยงความร่วมมือของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เทสโก้ โลตัส คิสซาเนีย อะเดย์ เป็นต้น และเครือข่ายภาคประชาสังคม อาทิ ธนาคารจิตอาสา เครือข่ายนับเราด้วยคน มิวสิคแชร์ลิ่ง เป็นต้น ดูรายละเอียดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ได้ที่ www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com หรือ Facebook: Happy Schoolbreak

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1225958

พิพิธภัณฑ์วัดใหม่กรงทอง ปราจีนบุรี

อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรีนั้นเป็นที่รู้จักกันมาเนิ่นนานจากนักล่าสมบัติ นักเรียนนักศึกษาด้านโบราณคดีประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยว นักแสวงบุญ   สันนิษฐานกันว่า เดิมอำเภอศรีมหาโพธิ เคยเป็น เมืองพระรถ มาก่อน ต่อมาเมื่อมีการขุดค้นที่เมืองโบราณแห่งนี้ได้พบคันฉ่องสำริดสมัยลพบุรีซึ่งมีจารึกความว่า “๑๑๑๕ ศกพระไทยธรรมของพระบาทกมรเต็งอัญศรีชัยวรม ทรงมอบให้แก่ อโรคยาศาลา ณ ศรีวัตสปุระ” เมืองโบราณแห่งนี้จึงน่าจะชื่อว่า เมืองศรีวัตสปุระ ตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นศูนย์กลางคมนาคมและเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับเมืองอู่ทอง เพราะอยู่ในตำแหน่งที่ติดต่อกับต่างประเทศได้ทางทะเลและบรรดาเมืองโบราณอื่นๆ ด้านตะวันออกและด้านตะวันตกเฉียงเหนือติดกับเมืองปักธงชัยและดินแดนที่ราบต่ำเขมรอำเภออรัญญประเทศ

พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร ปราจีนบุรี

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2452 โดยท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมยุคบาโรก (Baroque) ของยุโรป เพื่อใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หากเสด็จมณฑลปราจีนบุรีแต่รัชกาลที่ 5 ทรงสวรคตเสียก่อน จากนั้นตึกหลังนี้จึงใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์ คราเสด็จมณฑลปราจีนบุรี โดยที่ท่านเจ้าของตึกไม่เคยใช้ตึกหลังนี้เป็นที่พำนักส่วนตัวเลยตราบจนสิ้นอายุขัย

พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ปราจีนบุรี

พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ได้ตั้งตามชื่อ-สกุลของ คุณณรงค์ อยู่สุขสุวรรณ์ หรือที่ชาวปราจีนบุรี เรียกว่า “เฮียพันธ์” ซึ่งแต่เดิมนั้นประกอบอาชีพรับซื้อขายของเก่าจำพวกเศษเหล็กและโลหะ ในช่วงแรกๆ จะมีตะเกียงเจ้าพายุติดมากับพวกเศษโลหะจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ได้ให้ความสนใจมากนักและยังขายไปในราคาเดียวกับเศษเหล็กด้วยซ้ำ แต่เมื่อมีคนมาซื้อได้ให้ราคาเป็นดวงซึ่งสูงกว่าการขายเป็นกิโลกรัมเหมือนเศษโลหะโดยให้ราคาดวงละ 50 บาท จึงได้คัดแยกไว้ขายให้คนที่ต้องการเพราะเริ่มมีคนสนใจมากขึ้นเพื่อที่จะนำไปตกแต่งให้สวยงามและขายต่อให้ชาวต่างประเทศในราคาสูง ราคาจึงพุ่งขึ้นถึงดวงละ 100 บาท นับเป็นราคาที่สูงมาก ในขณะ

พิพิธภัณฑ์พระครูอุทัยธรรมธารี (เส็ง สุขิโต) ปราจีนบุรี

พิพิธภัณฑ์พระครูอุทัยธรรมธารี (เส็ง สุขิโต) เกิดขึ้นจากความตั้งใจของท่านพระครูอุทัยธรรมธารี       (เส็ง สุขิโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดป่ามะไฟ ที่ต้องการจะจัดแสดงวัตถุโบราณและของสะสมที่ท่านได้รับถวายจากญาติโยมและผู้มีจิตศรัทธา รวมทั้งสิ่งของทั้งหลายของวัด  การจัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์เริ่มในปี พ.ศ.2536 โดยท่านพระครูอุทัยธรรมธารี(เส็ง สุขิโต) ได้เจรจาขอใช้ที่ดินของกองทัพบก เพื่อจัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ แต่การก่อสร้างก็ต้องหยุดชะงักเนื่องจากการมรณภาพของท่านพระครูอุทัยธรรมธารีในปี พ.ศ.2538 การก่อสร้างหยุดไปประมาณ 5 ปี ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2543 ท่านเจ้าอาวาสองค์ใหม่ของวัดป่ามะไฟพระอธิการสัมพันธ์ ปญฺญาปทีโป ได้มาดำเนินการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2543 และทำการจัดแสดงนิทรรศการโบราณวัตถุ ศิลปะวัตถุจนแล้วเสร็จ และได้ส่งมอบอาคารพิพิธภัณฑ์รวมทั้งสิ่งของจัดแสดงภายในทั้งหมดให้อยู่ในความดูแลของกองทัพบก โดยมีค่ายจักรพงษ์เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง

จัด 450 กิจกรรม งานพิเศษ 3,000 ตำแหน่ง รับ “ปิดเทอมสร้างสรรค์”

ที่มา : MGR Online
เปิดตัวกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม รองรับ 450 กิจกรรม งานพิเศษ 3,000 ตำแหน่ง หวังดึงเด็กเยาวชนออกจากหน้าจอ เผยผลสำรวจพบการใช้เวลาเด็กเยาวชนไทยในช่วงปิดเทอม 71% เล่นมือถือ – อินเทอร์เน็ต

วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ได้มีการจัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ (เปิด) หน้าต่างสู่การเรียนรู้ โดยมี พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยความร่วมมือขององค์กรภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม

พล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนทุกช่วงวัยซึ่งในการพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชน รัฐบาลได้มีการพัฒนาเด็กตั้งแต่ปฐมวัยที่ครอบคลุมตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ยกระดับคุณภาพครูและสถานศึกษา ล่าสุด คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพื่ออุดช่องว่างความเหลื่อมล้ำเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา สำหรับช่วงปิดเทอมที่มีช่วงเวลาเฉลี่ย 3 เดือนครึ่งต่อปี ที่เด็กเยาวชนกว่า 13 ล้านคน ต้องออกจากรั้วสถานศึกษา มีผลสำรวจที่น่าสนใจเรื่อง “ปิดเทอมนี้เด็กเยาวชนอยากทำอะไร” ในเดือนมีนาคม 2561 โดย สสส. ร่วมกับชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน จำนวน 1,760 ตัวอย่าง พบว่า กิจกรรมที่เด็กเยาวชนตั้งใจจะทำในช่วงปิดเทอม 3 อันดับแรก คือ เล่นมือถือ อินเทอร์เน็ต 71% ตามด้วยการไปเที่ยวต่างจังหวัด 53% และหางานพิเศษทำ 46%

“กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ที่จัดขึ้นจึงมีส่วนช่วยให้เด็กเยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็นของเด็กและเยาวชน รัฐบาลอยากให้ปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ร่วมกันตระหนักและเห็นคุณค่าในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ของเด็กเยาวชน โดยจัดกิจกรรมและเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชน โดยเฉพาะการเข้าถึงของเด็กเยาวชนที่ขาดโอกาสทางสังคม จนเกิดเป็นวาระเด็กเยาวชนในช่วงเวลาปิดเทอมร่วมกัน” พล.อ. ปัฐมพงศ์ กล่าว

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ทำให้ในช่วงปิดเทอมนี้มีกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่กระจายทุกภูมิภาคถึง 450 กิจกรรม แบ่งเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ 200 กิจกรรม และแหล่งเรียนรู้ถึง 250 แห่ง รวมถึงการเปิดรับตำแหน่งงานพิเศษ 3,000 ตำแหน่ง และการสนับสนุนทุนเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีโอกาสคิดริเริ่มกิจกรรมที่สนใจถึง 400 โครงการตลอดทั้งปี ทั้งหมดนี้รวบรวมอยู่ในเว็บไซต์ปิดเทอมสร้างสรรค์ดอทคอม เพื่อเป็นช่องทางให้เด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง ได้เข้าถึงกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่สนใจได้ง่ายขึ้น โดย สสส. ยินดีที่เป็นหน่วยประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆที่จัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์และพื้นที่สร้างสรรค์เพิ่มเติมเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันและถอดบทเรียนรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มวัยต่อไป

ดร.ปัญญา หาญลำยวง อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเห็นความสำคัญในการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ของเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอมจึงมอบหมายให้กรมพลศึกษาจัดกิจกรรมร้อนนี้มีกีฬา เพื่อลูกรักและร้อนนี้มีนันทนาการเพื่อลูกรัก เพื่อให้เล่นกีฬาและนันทนาการตามความถนัดและสนใจ ได้ออกกำลังกายและได้เรียนรู้ระเบียบวินัยและเคารพกฎในกติกา โดยสนับสนุนกีฬาและนันทนาการที่กระจายอยู่ในสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจำนวน 76 แห่ง เจ้าหน้าที่พลศึกษาอำเภอทั้ง 878 อำเภอ และร่วมกับสถานศึกษาในสังกัดสพฐ.หรือโรงเรียนเทศบาล เพื่อเปิดสอนกีฬาทั้งไทยและสากล รวมทั้งกิจกรรมนันทนาการตามความสนใจของผู้เรียน ส่วนใน กทม. เปิดสอนในมีสนามกีฬาแห่งชาติและศูนย์ฝึกกีฬากรมพลศึกษา

นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนับสนุนกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์โดยได้มีการประชุมร่วมกับภาคเอกชนเพื่อขอความร่วมมือในการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์เป็นทางเลือกให้กับเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอม โดยเปิดรับตำแหน่งงานเพื่อหารายได้พิเศษ กว่า 3,000 ตำแหน่ง จากความร่วมมือของ 50บริษัทเอกชนชั้นนำ ฝึกงานเพื่อค้นหาอาชีพที่ชอบ และมีการจัดค่ายส่งเสริมทักษะทางสังคมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมศักยภาพของเด็กเยาวชนไทย

นางซองทิพย์ เสริมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายมิวเซียมสยาม กล่าวว่า ในช่วงปิดเทอมเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเรียนรู้บนโลกกว้าง ซึ่งพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้เวลาว่างของเด็กๆ ในช่วงปิดเทอม เติมเต็มมากยิ่งขึ้น พิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งได้เตรียมกิจกรรมรองรับเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอม ทั้งพิพิธภัณฑ์ของกรมศิลปากร ห้องสมุดมีชีวิตของทีเคพาร์ค นิทรรศรัตนโกสินทร์ ค่ายวิทยาศาสตร์ของ อพวช. ซึ่งในแต่ละพื้นที่ได้จัดกิจกรรมไว้รองรับ รวมถึงเนื้อหานิทรรศการที่หมุนเวียนเพื่อให้เด็กเยาวชนได้มาใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมิวเซียมสยามมีการรวบรวมบัตรท่องเที่ยวนิทรรศการในชื่อ Muse pass บัตรเดียวเที่ยว 63 พิพิธภัณฑ์ทั่วไทย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในการพาบุตรหลานเข้าชมนิทรรศการ

นายมานิตย์ มณีธรรม รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า สภาเด็กและเยาวชนเป็นกลไกหลักในการสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ และตำบลทั่วประเทศ ความร่วมมือของกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์กรมกิจการเด็กและเยาวชน โดยสภาเด็กและเยาวชนเครือข่ายเด็กและเยาวชน DJ Teen จะเป็นกลไกขับเคลื่อนกิจกรรมสร้างสรรค์ใน 3 มิติ คือ การป้องกันและแก้ไขปัญหา การพัฒนาตนเอง และการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่น ซึ่งส่งผลให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงไม่ตกเป็นเหยื่อหรือสร้างปัญหาให้กับสังคม แต่เป็นผู้พร้อมที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนาประเทศชาติ

ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า ในฐานะเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตด้านวิทยาศาสตร์ จึงเข้าร่วมในโครงการปิดเทอมสร้างสรรค์ ที่ดำเนินงานโดย สสส. ต่อเนื่องเป็น ปีที่ 3 ซึ่งในปีนี้นอกจากเด็ก ๆ จะสามารถมาเรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างสนุกสนานในพิพิธภัณฑ์ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีกิจกรรมพิเศษ อาทิ มาทดลองสวมบทบาทเป็นสายลับสุดท้าทายไปกับนิทรรศการ “Spy : Code Breaker” “ปฏิทินจันทรคติไทย 200 ปี” กิจกรรม “enjoy maker space” ชมตัวอย่างการ สตัฟฟ์สัตว์ ร่วมเรียนรู้ไปกับนิทรรศการที่มองไม่เห็น “บทเรียนในความมืด : Dialogue in the Dark” นิทรรศการจากประเทศเยอรมันที่จะทำให้เราใช้หัวใจนำทาง ฯลฯ โดยทุกกิจกรรมเน้นการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษารองรับเยาวชนที่จะเข้ามาใช้บริการในช่วงปิดเทอม

สำหรับความร่วมมือกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ กระทรวงศึกษาธิการ อพวช. กรมศิลากร มิวเซียมสยาม ทีเคพาร์ค ปปส. สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ องค์กรภาคเอกชน โดยการเชื่อมโยงความร่วมมือของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เทสโก้โลกัส คิสซาเนีย อะเดย์ เป็นต้น  และเครือข่ายภาคประชาสังคม อาทิ ธนาคารจิตอาสา เครือข่ายนับเราด้วยคน มิวสิกแชร์ลิ่ง เป็นต้น ดูรายละเอียดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ได้ที่ www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com หรือ Facebook: Happy Schoolbreak




อพวช. เข้าร่วมกิจกรรม “ปิดเทอมสร้างสรรค์” (เปิด) หน้าต่างสู่การเรียนรู้ จัดแสดงตัวอย่างกิจกรรม โชว์ นายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล

ที่มา : Thaipr

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เข้าร่วมเครือข่ายความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน เครือข่ายภาคประชาสังคมและแหล่งเรียนรู้ในชุมชน ทั่วประเทศ จัดกิจกรรม “ปิดเทอมสร้างสรรค์” (เปิด) หน้าต่างสู่การเรียนรู้ ดำเนินงานโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมพิเศษ อาทิ เปิดตัวนิทรรศการ “Spy : Code Breaker” กิจกรรม “ปฎิทินจันทรคติไทย 200 ปี” กิจกรรม “enjoy maker space” เรื่อง ปะติดปะต่อข้อต่อของฉัน เน้นการเรียนรู้แบบสเต็มศึกษา รองรับเยาวชนที่จะเข้ามาใช้บริการในช่วงปิดเทอม ทั้ง 3 พิพิธภัณฑ์ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา และพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ตั้งอยู่ ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และแหล่งเรียนรู้ใจกลางเมือง จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. ซึ่งตั้งอยู่ ชั้น 4 อาคารจัตุรัสจามจุรี สามย่าน กรุงเทพฯ

ดร.อภิญาณ์ หทัยธรรม รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า อพวช. มีภารกิจในการสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์แก่สังคมไทย โดยบริการแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ ที่ผู้เข้าชมสามารถมาเรียนรู้และค้นหาคำตอบได้ด้วยตนเอง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ชวนค้นพบ ทดลอง และเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ที่เป็นทั้งศูนย์วิจัย ศูนย์ข้อมูลอ้างอิงวัสดุตัวอย่างทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพของไทย ตลอดจนจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติวิทยา และพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ แหล่งเรียนรู้เทคโนโลยีการสื่อสาร การคำนวณ และคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลักของการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศที่นำโลกเข้าสู่ยุคแห่งการสื่อสารที่ไร้พรมแดน ที่ตั้งอยู่ ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และจัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. ศูนย์รวมกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ ที่ให้ความรู้ ประสบการณ์ สร้างจินตนาการ แรงบันดาลใจให้กับเด็ก เยาวชน รวมทั้งเป็นทางเลือกให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร สามารถใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจ อย่างมีคุณภาพ และเรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างสนุกสนาน ซึ่งตั้งอยู่ ชั้น 4 อาคารจัตุรัสจามจุรี สามย่าน กรุงเทพฯ

สำหรับในช่วงปิดเทอมนี้ อพวช. ยังได้เข้าร่วมกิจกรรม “ปิดเทอมสร้างสรรค์” (เปิด) หน้าต่างสู่การเรียนรู้ ที่จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ด้วยการนำตัวอย่างกิจกรรมบางส่วนจัดแสดงให้กับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล อาทิ ค่าย “นักประดิษฐ์พิชิตมหันตภัย” และ “นักประดิษฐ์ของเล่นภูมิปัญญาไทย” กิจกรรม enjoy science maker space ที่เน้นให้เยาวชนได้ลงมือทำ ออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานจากจินตนาการด้วยตนเองปลูกฝังความเป็นนักประดิษฐ์ หรือที่เราเรียกกันว่า Maker ให้กับเยาวชน ในรูปแบบสะเต็มศึกษา กิจกรรม ปฏิทินจันทรคติไทย 200 ปี ฝึกใช้ปฏิทินจันทรคติไทย 200 ปี และสามารถใช้ปฏิทินจันทรคติในการบอก วันข้างขึ้น-ข้างแรม เรียนรู้การสังเกตดวงจันทร์บนท้องฟ้า และเข้าใจการกำหนดวันปฏิทินแบบไทย กิจกรรม แผนที่ดาว ศึกษาการเคลื่อนที่ของท้องฟ้าการขึ้น และตกของดวงดาว ฝึกการสังเกตและรู้จักกลุ่มดาวเด่นและการบอกทิศทาง กิจกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ อาทิ IT LAB กิจกรรมที่เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้และสนุกสนาน ไปกับการทดลองควบคุมหุ่นยนต์ด้วยตนเอง IT walk rally ตะลุยพิพิธภัณฑ์เพื่อค้นหาคำตอบที่ซ่อนอยู่ในนิทรรศการด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ IT Workshop Activity เรียน รู้ เล่น อย่างเป็นระบบ กับกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะ ความรู้ ด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร และเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้ ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ภายใต้คำแนะนำของวิทยากร ชมตัวอย่างสัตว์สตัฟฟ์ ด้วยเทคนิคระดับสากลเพื่อการจัดแสดง ให้มีอิริยาบถการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ คล้ายมีชีวิต (Modern Technique on Taxidermy for Displaying) พร้อมเปิดตัวนิทรรศการชุดใหม่ล่าสุด Spy : Code Breaker เรียนรู้บทบาท หน้าที่ และความสำคัญของสายลับ ที่มีส่วนเกี่ยวพันกับเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์โลกสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านวิทยาการรหัส (Cryptography) ที่ครอบคลุมทั้งการสร้างชุดรหัสลับเพื่อเก็บรักษาและถ่ายทอดข้อมูลที่เป็นความลับ และการถอดรหัสเพื่อให้ได้มาซึ่งความลับของฝ่ายศัตรู รวมทั้งพัฒนาการของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับรหัสตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยสวมบทบาทเป็นสายลับ จัดแสดงที่ พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ และร่วมเรียนรู้ไปกับนิทรรศการที่มองไม่เห็น “บทเรียนในความมืด : Dialogue in the Dark” นิทรรศการจากประเทศเยอรมนี นิทรรศการที่สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของประสาทสัมผัสส่วนอื่นๆ นอกเหนือจากการมองเห็น และเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางสายตาได้แสดงศักยภาพที่มีอยู่อย่างมีคุณค่า จัดแสดงที่จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. ชั้น 4 อาคารจัตุรัสจามจุรี สามย่าน กรุงเทพ

สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2577 9999 ต่อ 2122, 2123 เว็บไซต์www.nsm.or.th เฟซบุ๊ก www.facebook.com/NSMthailand

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี

สวนสัตว์เปิดเขาเขียวเป็นสวนสัตว์เปิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีทั้งส่วนศึกษาอนุรักษ์และวิจัยด้านสัตว์ป่า ทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในภาคตะวันออก จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินงานด้านการเลี้ยงและสงวนพันธุ์สัตว์ รวมทั้งสร้างสมดุลทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ บริการด้านการศึกษาค้นคว้าวิจัย การนันทนาการ การพัฒนาจิตใจเยาวชนและประชาชนให้ตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน

พิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน ชลบุรี

เป็นที่เก็บรวบรวม สงวนรักษาและจัดแสดง วัตถุพิพิธภัณฑ์ และประวัติเหตุการณ์สาคัญ ในอดีต ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของทหารนาวิกโยธิน
จัดแสดงนิทรรศการถาวรภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน และภายนอกอาคาร เป็นการจัดแสดงอาวุธโบราณสมัย รัชกาลที่ 5 และสมัยรัชกาลที่ 6 อาวุธสมัยสงครามอินโดจีน สงครามมหาเอเชียบูรพา และอาวุธสมัยปัจจุบันที่เลิกใช้แล้ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้และ นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า