ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) สำนักงาน กศน. ให้บริการส่วนการแสดงท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ เปิดการแสดงเป็นรอบ ๆ ละ 1 ชั่วโมง ให้บริการผู้ชม จำนวน 280 คนต่อ 1 รอบการแสดง โดยในช่วงแรกเป็นการบรรยายให้ความรู้ด้านดาราศาสตร์และอวกาศ จากนักวิชาการศึกษา และในช่วงท้ายจะเป็นการแสดงภาพยนตร์เต็มโดมจากเครื่องฉายดาวและสื่อมัลติมีเดีย ซึ่งจะมีการเปลี่ยนภาพยนตร์เต็มโดมทุกเดือน
สำหรับการแสดงภาพยนตร์เต็มโดม ในเดือนมีนาคม 2561 จัดแสดงเรื่อง เรื่อง “จั
นิทรรศการพลังวิทย์พิชิตยาเสพติด (Anti – Drug Exhibition) จัดแสดงที่ชั้น 1 อาคารพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม ให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดในด้านวิทยาศาสตร์ เป็นการสร้างองค์ความรู้ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ โดยใช้สื่อประสบการณ์จำลองกระตุ้นให้เกิดคำถาม และทดลอง นำไปสู่คำตอบ ผู้ชมมีส่วนร่วมในนิทรรศการในรูปแบบ Interactive เพื่อให้เยาวชนมีภูมิคุ้มกัน และรู้เท่าทันอันตรายของยาเสพติด แบ่งเป็น 5 โซน
โซนที่ 1 ภัยร้ายใกล้ตัว เพื่อให้เยาวชนรู้ทันอันตรายของยาเสพติดที่มาในรูปแบบต่าง ๆ
โซนที่ 2 รู้จักเพื่อรู้หลีก เพื่อให้เยาวชนรู้จักประเภทและชนิดของยาเสพติด
โซนที่ 3 ยาเสพติดมีฤทธิ์ร้าย เพื่อให้เยาวชนมีความเข้าใจภาวะของผู้ติดยาเสพติด และผลเสียต่อชีวิตและสังคม
โซนที่ 4 กลับตัวกลับใจ สังคมให้อภัย เพื่อให้เยาวชนถึงการป้องกัน และการบำบัดยาเสพติด
โซนที่ 5 ห้องกิจกรรม ห้อง EF (Executive Function)เป็นห้องกิจกรรมบ่มเพาะทักษะการคิด ส่งเสริมให้เยาวชนมีความสามารถในการจัดการตัวเอง ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ห่างไกลจากยาเสพติด
* ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม
ศูนย์แสดงนิทรรศการยาเสพติดเพื่อเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโทษ และพิษภัย รวมถึงแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติดกับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ในประเทศ โดยเน้นการนำเสนอเนื้อหาด้วยเทคโนโลยีมัลติมีเดีย ระบบแสง สี เสียง และสื่อปฏิสัมพันธ์หลากหลายชนิดที่มีความทันสมัย ความน่าสนใจ
ออเจ้าเพลาสายแล้ว…จะรับขนมไทยไหมเจ้าค่ะ
ออเจ้าทราบไหมว่า “ขนม” สันนิษฐานว่ามาจากคำว่า “ข้าวหนม” กับ “ข้าวนม” ข้าวหนมนั้นเข้าใจว่าเป็นข้าวผสมกับน้ำอ้อย น้ำตาล โดย คำว่า หนม แปลว่า หวาน เมื่อรวมกันจึงหมายความว่า ข้าวหวาน นั่นเองเจ้าค่ะ
ถ้าออเจ้าทั้งหลายอยากทราบความเป็นมาของขนมและอยากเห็นขนมไทยหลายๆแบบ โปรดพาลูกหลานไปเรียนรู้ได้ที่ “พิพิธภัณฑ์ขนมไทย” ที่ตั้งอยู่ที่อัมพวา สมุทรสาคร ที่แห่งนี้ตั้งขึ้นเพื่อสืบสานอนุรักษ์ขนมไทยให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักขนมไทยอันเลื่องชื่อ
ภายในจัดแสดงตามยุคสมัยถือกำเนิดไล่เรียงมาตั้งแต่
สมัยสุโขทัย ซึ่งถือเป็นยุคแรกที่คนไทยได้รู้จักกับขนม ในศิลาจารึกได้มีการบันทึกเกี่ยวกับขนมว่า เป็นอาหารที่มีข้าวและนมเป็นส่วนผสมหลัก หรือบางครั้งก็มีน้ำกะทิเป็นกระสายชูรสชาติ เมื่อข้าวและนมพ้องกันนานเข้าจึงถูกเรียกติดปากว่า “ขนม” ไปโดยปริยาย
ต่อมาเป็นสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่เริ่มรับเอาวัฒนธรรมการปรุงขนมจากชาติยุโรป และถือเป็นยุค “จุดเปลี่ยน” ของวงการขนมไทยครั้งใหญ่ ที่ มารี กีมาร์ เดอ ปิญญา หรือ ที่คนไทยสมัยนั้นเรียกว่า “ท้าวทองกีบม้า” สตรีเชื้อสายโปรตุเกส หัวหน้าห้องต้นเครื่องในราชสำนัก ผู้ที่นำอิทธิพลการทำอาหารจากโปรตุเกสที่มีส่วนผสมของ น้ำตาล แป้ง ไข่ และมะพร้าว เข้ามาเป็นส่วนผสมสำคัญ ทำให้เรามี ฝอยทอง สังขยา หม้อแกง ขนมผิง ที่เราได้ลิ้มรสความอร่อยถึงทุกวันนี้
ยุคกรุงรัตนโกสินทร์ที่ยุคนี้ยังถือว่าเป็นยุคที่การทำขนมไทยมีความวิจิตรงดงามและอาศัย ฝีมือมากขึ้น
แค่อ่านก็หิวแล้ว ไปกันเถอะออเจ้า
พิพิธภัณฑ์ขนมไทย แห่งนี้ไม่มีค่าเข้าชม โดยเปิดให้ชมฟรีในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 19.00 น.
เปิดตัวพื้นที่รวมกิจกรรมสร้างสรรค์ปิดเทอมเพื่อให้เด็กและผู้ปกครองค้นหาได้ง่ายๆว่าปิดเทอมนี้ มีกิจกรรมดีๆ เด่นๆที่ไหน ทุกคนสามารถค้นหาได้ที่ www.happyschoolbreak.com
สำหรับงานเปิดตัว เรายังได้นำกิจกรรมมากมายมาให้ทุกคนร่วมสนุกกัน อาทิ รับฟังออเคสตร้าคลองเตย , ร่วมต่อบล็อกไม้จากคลองเตย, สนุกสนานกับการเพ้นท์หน้าสไตล์คลองเตย, ชมโชว์นาฏศิลป์สร้างคนจากเยาวชนคลองเตย, กิจกรรมอาสาสมัครทำสมุดเรียนให้น้องจากกระดาษเหลือใช้จาก paper ranger ,โชว์กิจกรรมสะเต็มศึกษา หรือ ใครอยากหางานทำช่วงปิดเทอม ไม่ควรพลาดกับบูธรับสมัครงาน #ปิดเทอมสร้างสรรค์ #กิจกรรมปิดเทอม #happyschoolbreak
แล้วเจอกันที่ลานเอเทรียม ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นต์เตอร์
ปิดเทอมสนุกแน่ แค่ชวนสมาชิกในบ้านใช้เวลาร่วมกันทำกิจกรรมง่ายๆ ได้ประสบการณ์ แถมไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลือง เสียสตางค์มากมายเลย ไปดูกันดีกว่าว่า… ปิดเทอมนี้ทำอะไรดี?
พัฒนาทักษะด้านการอ่านของเด็กๆ ให้ดีขึ้นด้วยการอ่านหนังสือร่วมกันในครอบครัว เพราะถึงแม้ว่าเด็กๆ จะถูกแวดล้อมไปด้วยหนังสือต่างๆ เพื่อกระตุ้นพวกเขามากแค่ไหน แต่พ่อแม่ก็ต้องให้เวลาอ่านหนังสือ ใกล้ชิดกับลูกๆ ให้มากขึ้นด้วย
ทำกล้องสลับลายให้เด็กๆ ได้มองดูลวดลายที่มีสีสันสดใสใกล้ๆ ด้วยกันได้ไม่ยาก เริ่มจากตัดกระจกกว้าง 1.5 นิ้ว ยาว 4.5 นิ้ว จำนวน 3 แผ่น ต่อเข้าด้วยกันเป็นทรงสามเหลี่ยมปริซึม แล้วใช้แกนกระดาษทิชชู่เป็น ตัวกล้องด้านนอก ทำช่องมองด้วยแผ่นพลาสติก อีกฝั่งใส่ลูกปัดสวยๆ ลงไป ปิดด้วยพลาสติกวงกลม แค่นี้ ก็เสร็จแล้ว ส่วนด้านนอกก็อาจจะตกแต่งด้วยกระดาษลายไม้หรือสติ๊กเกอร์สวยๆ ได้นะ
เด็กๆ ชอบที่จะฟังเรื่องราวต่างๆ และจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ด้วยการให้ฟัง Podcasts และหนังสือเสียง โดยที่คุณแม่ก็สามารถทำงานบ้านไปด้วยได้ในขณะที่เด็กๆ ก็กำลังตั้งใจกับการฟังอยู่เช่นกัน
แม้ว่าการเล่นน้ำอาจจะฟังดูไร้สาระ ไม่มีประโยชน์ แต่เด็กๆ ก็ชอบที่จะใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับการเล่นปืนฉีดน้ำ ก็ขนาดผู้ใหญ่อย่างเรายังชอบเลยนี่
เพิ่มชีวิตชีวาให้ฟองสบู่ที่เราเป่าขึ้นมาด้วยการทำให้ฟองสบู่มีสีสัน โดยสิ่งที่ต้องเตรียม ได้แก่ น้ำยาล้างจาน สีผสมอาหาร ไม้ยาว และเชือก เริ่มจากผสมน้ำยาล้างจานกับสีผสมอาหาร แล้วนำเชือกไปผูกไม้ คราวนี้ ก็ได้เวลาพร้อมจะทำฟองสบู่ยักษ์สีรุ้งกันแล้ว
เด็กๆ ชอบการแสดงบทบาทสมมติ โดยเฉพาะแบบแฟนตาซีเหนือจริง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรช่วยเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้แก่จินตนาการของลูกๆ ด้วย เช่น ให้เล่นเป็นโจรสลัด โดยใช้กล่องกระดาษขนาด ใหญ่ ชุดของเล่น ไฟฉาย หน้ากากปิดตา และอื่นๆ
เดี๋ยวนี้มีน้ำยาทาเล็บสำหรับเด็กวางจำหน่ายมากมาย คุณแม่สามารถเลือกซื้อมาเล่นทาเล็บกับลูกๆ ช่วยให้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
ถ้าเด็กๆ สนใจในเทคนิคมายากล ใช้โอกาสนี้ฝึกเล่นมายากลกัน แล้วให้เขาแสดงมายากลโชว์กับเพื่อนๆ
ไม่ควรปล่อยให้ลูกๆ ใช้นิ้วมือนิ้วเดียวในการพิมพ์คอมพิวเตอร์ มาชวนกันเล่นเกมพิมพ์ดีดออนไลน์ที่จะช่วยบริหารนิ้วมือทั้งสองข้างกันดีกว่า
เด็กบางคนสนใจศึกษาชีวิตของเหล่าฝูงนกบนท้องฟ้า ซึ่งมีเรื่องต่างๆ ให้เรียนรู้มากมาย เช่น วิธีการสร้างรังนก การให้อาหาร ฯลฯ โดยอาจจะชวนเด็กๆ มาเขียนบันทึกเกี่ยวกับนกที่เคยสำรวจพบสิ
กิจกรรมแสนสนุกที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านความคิดสร้างสรรค์ โดยให้เด็กคนแรกเริ่มแต่งเรื่องขึ้น จากนั้นส่งต่อให้เด็กคนอื่นๆ แต่งประโยคต่อกันไป จนกลายออกมาเป็นเรื่องราวที่สมบูรณ์ และให้เด็กคนสุดท้ายวาดรูปภาพประกอบเรื่องให้เรื่องราวนี้สนุกยิ่งขึ้น
ทุกคนคงเคยฝันอยากจะสัมผัสดวงดาวสว่างไสวในยามค่ำคืน ตอนนี้เราสามารถที่จะเก็บดาวเหล่านั้นมาใส่ขวดวางไว้ในห้องของลูกๆ ได้แล้วนะ เริ่มจากใช้แผ่นอลูมิเนียมบางๆ เจาะเป็นรูปกลุ่มดาวต่างๆ นำมาใส่ขวดโหลปากกว้าง แล้วใส่หลอดไฟแอลอีดีขนาดเล็กไว้ด้านในสุด ปิดไฟในห้องให้มืด แล้วมาสนุกกับ กลุ่มดาวระยิบระยับกัน
หนึ่งในวิธีลดความน่าเบื่อหน่ายในช่วงปิดเทอม คือการให้เด็กๆ ผลัดกันไปเล่นที่บ้านของเพื่อนแต่ละคน
ทำตุ๊กตาม้าให้เด็กๆ โดยใส่ใยสังเคราะห์เข้าไปในถุงเท้า ใช้ไม้เป็นแกน ตกแต่งตาโดยใช้กระดุมสองเม็ด แล้วเย็บเข้าด้วยกัน ก็ได้เป็นตุ๊กตาม้าให้ลูกเล่นสนุกในปาร์ตี้คาวบอยเล็กๆ ของเด็กๆ แล้ว
ช่วยกันจัดสวนสวยในขวดแก้ว โดยใช้ต้นไม้ขนาดเล็กวางในขวดแก้วที่โรยด้วยหินและก้อนกรวด จากนั้นก็ประดับด้วยตุ๊กตาน่ารักตัวเล็กๆ กิจกรรมนี้จะช่วยทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ สนุกสนาน และช่วยกระชับความสัมพันธ์กับคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย
เด็กๆ จะได้รับแรงบันดาลใจมากมายจากการเดินเที่ยวชมในหอศิลปะ ดังนั้นควรพาพวกเขาไปชมนิทรรศการงานศิลปะบ่อยๆ สักวันหนึ่งเด็กๆ อาจจะกลายเป็นหนึ่งในตำนานของวงการศิลปะก็ได้
หาอุปกรณ์การเล่นดอกไม้ไฟในขวดได้ง่ายๆ ภายในบ้าน ทั้งขวดแก้ว น้ำอุ่น น้ำมันพืช และสีผสมอาหาร โดยใส่น้ำอุ่นลงในขวดประมาณ 3 ใน 4 แล้วผสมน้ำมันพืชกับสีผสมอาหาร จากนั้นนำไปใส่ในขวด เราจะได้เห็นสีสันสวยงามที่เกิดขึ้นราวกับดอกไม้ไฟจริงๆ
ใช้โฟมเส้นฝึกว่ายน้ำประดิษฐ์เป็นเรือลำเล็กๆ ให้เด็กๆ นำไปเล่นในกะละมังหรือถังน้ำ
เราสามารถนำวัสดุรีไซเคิลมาทำงานศิลปะและของเล่นต่างๆ ได้มากมาย ดังนั้นจึงควรสอนให้เขาเห็นคุณค่าของการรีไซเคิลและการนำกลับมาใช้ใหม่ โดยฝึกให้เด็กๆ รู้จักคัดแยกขยะ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการมีวินัยในตัวเอง และยังเป็นการช่วยคุณแม่ทำงานบ้านอีกด้วย
ลองให้เด็กๆ สร้างบ้านให้แมลงเต่าทอง แล้วพากันไปสำรวจต้นไม้ที่มีแมลงเต่าทอง และเก็บรวมรวมมาไว้ที่บ้านแสนสุขหลังใหม่นี้
ปิดเทอมสนุกแน่ แค่ชวนสมาชิกในบ้านใช้เวลาร่วมกันทำกิจกรรมง่ายๆ ได้ประสบการณ์ แถมไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลือง เสียสตางค์มากมายเลย ไปดูกันดีกว่าว่า… ปิดเทอมนี้ทำอะไรดี?
การไปเยี่ยมเยียนพบปะญาติที่อยู่ห่างไกลจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้น โดยเฉพาะกับเด็กๆ ที่จะได้ใช้เวลาเล่นสนุกร่วมกับลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ค่อยได้พบกัน
เด็กผู้ชายส่วนใหญ่มักจะหลงใหลไปกับการเดินชมรถแต่งโบราณ และมันจะช่วยกระตุ้นความรู้สึกลึกๆ ให้เด็กๆ รู้จักกล้าที่จะฝันในเรื่องที่ยิ่งใหญ่
เด็กเล็กๆ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายมักจะชอบนำเสื้อผ้าพ่อแม่มาสวมใส่เล่น ลองชวนเด็กๆ มาแต่งตัวเดินโชว์ แล้วถ่ายภาพน่ารักๆ เก็บไว้สิ
เลือกเล่นเกมเหยียบลูกโป่ง หรือเกมอื่นที่ใช้ลูกโป่งเป็นอุปกรณ์มาเล่นกัน (โดยก่อนจะเป่าลูกโป่ง ให้ใส่อมยิ้มลงไปในลูกโป่งก่อน) กิจกรรมคลาสสิกแบบนี้ยังสามารถทำให้ทุกคนรู้สึกลุ้นและตื่นเต้นได้อยู่เสมอ
ตัดกระดาษแข็งเป็นรูปเมฆ เจาะช่องตรงกลางไว้สำหรับใส่หนังสือ ติดกระดาษแข็งเข้าด้วยกันด้วยกาวหรือเทปกาวสองหน้าจนได้ความหนาของชั้นวางหนังสือตามที่ต้องการ แล้วก็ตกแต่งเพิ่มเติมได้ตามใจเลย
ตัดภาพดารานักแสดงหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงจากนิตยสารเก่าๆ หรือตัดกระดาษสีเป็นรูปสัตว์ต่างๆ นำมาติดลงบนไม้ไอศกรีมที่จัดเรียงไว้ จากนั้นจึงใช้คัตเตอร์ตัดภาพแยกออกจากกัน ได้เป็นภาพปริศนาไว้ทายเล่น กันแล้ว
ให้เด็กๆ เลือกสิ่งของที่ไม่ได้ใช้นานแล้ว ทั้งของเล่น หนังสือ และเสื้อผ้า แล้วนำออกไปวางขายที่ตลาดนัดกัน รับรองสนุกแน่นอน
เปลี่ยนเสื้อสเว็ตเตอร์ตัวเก่าให้ดูสวยน่ารักขึ้น โดยไม่ต้องใช้วิธีเย็บ แต่ประดับตกแต่งเสื้อโดยใช้กาวติดผ้าแทน
เด็กๆ จะได้เพลิดเพลินกับการมีส่วนร่วมเป็นอาสาสมัครในโครงการต่างๆ เช่น โครงการเลี้ยงอาหารกลางวัน ทำความสะอาดถนน ฯลฯ
พาลูกๆ ไปร้านขายของมือสอง งานนี้อาจได้ของราคาถูกอย่างคาดไม่ถึงติดไม้ติดมือกลับมาบ้าน
สิ่งที่ต้องใช้ก็คือโฟมเส้นฝึกว่ายน้ำ ตัดแบ่งครึ่งไปตามทางยาวด้วยมีดแบบหยัก เพื่อจะได้รอยตัดที่เรียบ ด้านล่างอาจมีกล่องรองเท้า เพื่อใช้รองรับรถของเล่นหรือลูกแก้วที่ใช้ในการแข่งขัน แล้วอย่าลืมปักธงตรงจุด START และ FINISH ด้วยล่ะ
นำผ้าใบเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้วมาตัดให้เป็นช่อง เพียงแค่นี้ก็ได้อุปกรณ์เล่นเกมปาของราคาประหยัดแล้ว
ช่วงปิดเทอมของเด็กๆ ไม่ได้มีแค่เรื่องเล่นสนุก แต่พวกเขายังช่วยทำงานบ้านได้อีกด้วย อย่างเช่น การเช็ดทำความสะอาดกระจกหน้าต่างที่เด็กๆ ยังรู้สึกสนุกสนานได้ แค่ให้ขวดสเปรย์น้ำยาเช็ดกระจกและฟองน้ำหรือผ้าสีสันสดใส แค่นี้เด็กๆ ก็พร้อมที่จะลุยแล้ว
บรรดาเด็กๆ ที่ชอบแต่งตัวต่างชอบที่จะอวดกระเป๋า หมวก และเสื้อกั๊กไหมพรมของตัวเอง ดังนั้นการให้เขาได้ลองถักโครเชต์ด้วยตัวเองอาจช่วยกระตุ้นความเป็นดีไซเนอร์ในตัวเขาขึ้นมาก็ได้
ลองอีกหนึ่งแผนกิจกรรมรับปิดเทอม ด้วยการให้เด็กๆ อาบน้ำให้น้องหมาก็เป็นเรื่องที่สนุกได้ โดยเตรียมแค่ถังน้ำใบใหญ่ๆ และแชมพูอาบน้ำ แล้วก็เริ่มอาบกันได้เลย
เกมที่เล่นได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง และให้เด็กๆ มีส่วนร่วมในการประดิษฐ์ไม้ตีปิงปองที่่ทำจากจานกระดาษและที่จับไม้ไอศกรีม เมื่อทำเสร็จแล้วก็ออกมาวาดลวดลายเล่นตีปิงปองโดยใช้ลูกโป่งมาแทนลูกปิงปองกันเลย
ในขณะที่คุณแม่กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารกลางวัน เด็กๆ ก็สามารถสนุกกับการทำผลไม้สดเสียบไม้เพื่อสุขภาพและแสนอร่อยกันได้
ช่วยคุณแม่ล้างจานก็เล่นไปด้วยได้นะ เรามาจัดให้เด็กๆ ล้างจานกลางแจ้ง ด้วยอ่างใบใหญ่ สบู่ และฟองน้ำสีสันสดใส โดยเลือกให้ล้างของง่ายๆ เช่น จาน แก้ว หรือเครื่องครัวพลาสติกชิ้นเล็กๆ
ให้ลูกๆ ได้เผาผลาญแคลอรี่ระหว่างเล่นเกม ด้วยการทำตัวอักษรสแคร็บเบิลขนาดใหญ่เป็นพิเศษไปเล่นกันที่สนามหลังบ้าน
คราวนี้เรามาทำเกมรับลูกบอลกันบ้าง โดยนำแกลลอนขวดนมพลาสติก (หรือขวดน้ำยาซักผ้า) มาตัดท้ายขวดออก แล้วล้างให้สะอาด ทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นนำมาตกแต่งปิดขอบให้สวยด้วยเทปกาวหลากสี เท่านี้ ก็ได้ของเล่นใหม่กันอีกชิ้นแล้ว
พิพิธภัณฑ์เมืองหาดใหญ่ ชั้นล่างเน้นจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเมืองหาดใหญ่เป็นหลัก นอกจากนี้มีข้อมูลสำคัญ ๆ ที่เกี่ยวกับจังหวัดสงขลาและภาคใต้ผนวกรวมเอาไว้ด้วย อาทิ ประมวลภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรใน 14 จังหวัดภาคใต้
การจัดแสดงโบราณวัตถุศิลปวัตถุ อาทิ เครื่องประทีป ศาสตราวุธ ภาชนะดินเผายุคสมัยต่างๆ รวมถึงมีนิทรรศการภาพถ่ายเก่าเมืองหาดใหญ่ ประวัติบุคคลสำคัญผู้บุกเบิกและพัฒนาเมืองหาดใหญ่ แผนที่โบราณภาคใต้ และมีส่วนจัดแสดงโดยใช้คอมพิวเตอร์ แบบระบบสัมผัส (touch screen)
หอประวัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดตั้งขึ้นภายใต้แนวคิด “ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ ทั้งเป็นพื้นที่การเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป และยังเป็นพื้นที่ส่งต่อจิตวิญญาณการทำประโยชน์เพื่อเพื่อนมนุษย์ ซึ่งเป็นปณิธานของมหาวิทยาลัย
เป็นสวนสัตว์แห่งแรกของภาคใต้และได้รับความนิยมจากประชาชนมาจนถึงปัจจุบัน ในพื้นที่ 878 ไร่ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่ออนุรักษ์ขยายพันธุ์และรวบรวมสัตว์ป่าของไทยให้เกิดการศึกษาเกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นขุนเขาที่โอบล้อมด้วยทะเลสาบสงขลาใกล้แหลมสมิหลาและสามารถชมวิวสะพานติณสูลานนท์ได้อย่างชัดเจน
ตั้งอยู่ ณ วัดมัชฌิมาวาสวรวิหาร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดกลาง ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เป็นพิพิธภัณฑสถานที่เกิดขึ้นจากความใส่ใจและสนใจในการรักษาเอกลักษณ์อันทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น เริ่มจาก พระราชศีลสังวร (ช่วง อตฺถเวที) ขณะดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาสวรวิหาร ซึ่งเป็นผู้มีความสนใจทางด้านประวัติศาสตร์โบราณคดีในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างเป็นอันมาก ได้เก็บรวมรวมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุในเขตอำเภอสทิงพระและเขตอำเภอใกล้เคียง และที่มีผู้นำมาถวายตั้งแต่ครั้งก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นำมาจัดแสดงที่อาคารไม้หลังอาคารฤาษีดัดตน และจัดตั้งเป็นห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ของวัดมัชฌิมาวาส โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมเป็นครั้งแรกในงานวันวิสาขบูชา เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2483 ถือเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งแรกในจังหวัดสงขลา ในปี พ.ศ. 2496 พระราชศีลสังวร (ช่วง อตฺถเวที) ได้ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์อาคารศาลาการเปรียญเพื่อใช้เป็นที่จัดตั้งพิพิธภัณฑ์หลังใหม่แทนที่อาคารหลังเดิมที่ชำรุด และได้เรียกชื่อว่า ภัทรศีล์พิพิธภัณฑ์ และรับการยกฐานะให้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุฯ เมื่อ พ.ศ. 2504 มีชื่อเรียกในทางราชการ ว่า “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ภัทรศีลสังวร” หรือ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มัชฌิมาวาส”
จัดตั้งเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2549 จากการสนับสนุนของนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และเป็นการแสดงความจงรักภักดี เป็นหอศิลป์ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปกรรมร่วมสมัย ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และกำหนดให้เป็นแหล่งเรียนรู้และสถานที่ท่องเที่ยวของเทศบาลนครหาดใหญ่
เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้และ นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
