อาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา เดิมเป็นคฤหาสน์ของผู้ช่วยเจ้าเมืองสงขลา พระยาสุนทรานุรักษ์ (เนตร ณ สงขลา) ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลาเมื่อปี พ.ศ. 2421 จนกระทั่งปี พ.ศ. 2437 จึงใช้เป็นที่พำนักและว่าราชการของพระยาวิจิตรวรศาสตร์ ข้าหลวงพิเศษตรวจราชการเมืองสงขลา ซึ่งต่อมาก็คือ เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) หลังจากนั้นได้ใช้เป็นศาลาว่าการมณฑลนครศรีธรรมราช และเป็นศาลากลางจังหวัดตามลำดับจนถึงปี พ.ศ. 2496 ในปี พ.ศ. 2516 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนอาคารแห่งนี้เป็นโบราณสถาน และปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑสถานของชาติ และเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2525 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา เพื่อให้เป็นสถานที่จัดแสดงศิลปวัตถุภาคใต้ตอนล่าง และเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ทางด้านโบราณคดี ประวัติศาสตร์ศิลปะ ชาติพันธุ์วิทยา ศิลปะจีน ศิลปะพื้นบ้านพื้นเมือง นอกจากนี้ ยังจัดแสดงศิลปโบราณวัตถุที่เกี่ยวกับตระกูล ณ สงขลา ซึ่งเป็นตระกูลเจ้าเมืองสงขลาในอดีตด้วย
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองท่าทอง สุราษฎร์ธานี
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของเมืองท่าทอง
อนุสรณ์สถานบ้านช่องช้าง สุราษฎร์ธานี
สร้างขึ้นไว้เป็นอนุสรณ์เพื่อเป็นการรำลึกถึงจิตใจที่กล้าต่อสู้ กล้าเสียสละ เพื่ออุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตย ความเป็นธรรมของสังคม
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติไชยา สุราษฎร์ธานี
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา ตั้งอยู่ในพื้นที่ของวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร จัดเป็นพิพิธภัณฑสถานประเภทประวัติศาสตร์ ศิลปะ และโบราณคดี การก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ในระยะแรก เพื่อรวบรวมศิลปวัตถุที่พบในพื้นที่อำเภอไชยา โดยท่านพระครูโสภณเจตสิการาม(เอี่ยม) อดีตเจ้าคณะอำเภอไชยา
พิพิธเมืองคนดี สุราษฎร์ธานี
พิพิธเมืองคนดี เป็นอาคารแสดงเรื่องราวความเป็นมาและเหตุการณ์ต่างๆ ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี อาทิ เหตุการณ์เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเยือนจังหวัดสุราษฎร์ธานี อดีตเมืองท่าข้าม ประวัติศาสตร์สะพานจุลจอมเกล้า เรื่องราวท่านพุทธทาส ภิกขุ ปรัชญาเมธีผู้ยิ่งใหญ่ รวมถึงสวนโมกขพลาราม ฯลฯ
เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ภายในประกอบด้วยการจัดแสดงนิทรรศการ พร้อมวีดีทัศน์จอมัลติมีเดียเรื่องราวความเป็นมาและเหตุการณ์ต่าง ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สวนโมกขพลาราม สุราษฎร์ธานี
มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า วัดธารน้ำไหล เริ่มก่อตั้งครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2475 โดยพระธรรมโกศาจารย์ หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนามของท่านพุทธทาสภิกขุ หรือ พระมหาเงื่อม อินทปัญโญ ในเวลานั้น ที่วัดตระพังจิก ต.พุมเรียง อ.ไชยา ซึ่งเกิดจากความต้องการหาที่สงบสำหรับศึกษาและปฏิบัติธรรมของท่านพุทธทาส ต่อมาย้ายสถานที่แห่งใหม่มาอยู่ที่วัดธารน้ำไหลมีเนื้อที่ประมาณ 310 ไร่ เป็นสถานที่ศึกษาและปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียงไป ทั่วโลก
เป็นแหล่งเรียนรู้แก่นพุทธศาสนาตามคำสอนของพระพุทธเจ้า จากผลงานการศึกษา ค้นคว้า และปฎิบัติของท่านพุทธทาส พระแท้ที่ปฎิบัติดี ปฎิบัติตรง ปฎิบัติเพื่อการออกจากทุกข์
คำว่า สวนโมกขพลาราม หมายถึง อารามที่ทำให้เกิดกำลังแห่งความหลุดพ้น
ปิดเทอมสร้างสรรค์ 100 กิจกรรมหรรษา [ตอนที่3]
ปิดเทอมสนุกแน่ แค่ชวนสมาชิกในบ้านใช้เวลาร่วมกันทำกิจกรรมง่ายๆ ได้ประสบการณ์ แถมไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลือง เสียสตางค์มากมายเลย ไปดูกันดีกว่าว่า… ปิดเทอมนี้ทำอะไรดี?
41. เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
พากันไปชื่นชมธรรมชาติตามเส้นทางท่องเที่ยวต่างๆ นอกจากทำให้เด็กๆ ได้รับอากาศบริสุทธิ์ บรรยากาศดี ได้สุขภาพแล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้สำรวจและชื่นชมวิวธรรมชาติที่สวยงามบนโลกใบนี้
42. ออกกำลังกายที่สนามเด็กเล่น
สนามเด็กเล่นเป็นสถานที่เหมาะสำหรับให้เด็กๆ มาเล่นสนุกออกกำลังกายกัน ทั้งได้วิ่งเล่น ปีนป่าย โหนบาร์ และกระโดดโลดเต้น หรือจะชวนกันไปงานเดิน-วิ่งต่างๆ ก็ได้ แล้วอย่าลืมพกกล้องถ่ายรูปไปเก็บภาพความทรงจำของเด็กๆ ไว้ด้วยนะ
43. เล่นเกม Scavenger Hunt
Scavenger Hunt เป็นเกมสุดตื่นเต้นที่ให้เด็กๆ แข่งขันกัน โดยแบ่งเป็นทีมช่วยกันหาสิ่งของทุกอย่างที่มีรายชื่ออยู่ในกระดาษ ลองนำเป็นไอเดียทำเล่นกันนะ
44. ไปห้องสมุด
ที่ห้องสมุดมักจัดกิจกรรมน่าสนใจมากมายเป็นประจำ เพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของเด็กๆ เช่น การประกวดออกแบบที่คั่นหนังสือ การแข่งขันตอบคำถามต่างๆ
45. เล่นว่าว
กีฬาเล่นว่าวเป็นงานอดิเรกที่ให้ความรู้สึกอิสระ ไร้ความกังวลใจ การได้เห็นว่าวสีสันสดใสลอยตัวขึ้นไปบนท้องฟ้ามักจะสร้างความเพลิดเพลินใจได้อยู่เสมอ
46. เที่ยวพิพิธภัณฑ์
การเรียนรู้ข้อเท็จจริงและค้นหารายละเอียดต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์มีประโยชน์มาก เพราะถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้เด็กๆ ก่อนจะได้เรียนวิชาประวัติศาสตร์ในโรงเรียนต่อไป
47. หาโปรโมชั่นเด็กทานฟรี
การพาครอบครัวไปรับประทานอาหารนอกบ้านบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็อาจจะไม่ค่อยสบายกระเป๋าเท่าไร ลองค้นหาข้อมูลร้านอาหารที่มีบริการโปรโมชั่นให้เด็กทานฟรีดูสิ จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อย เช่น ร้านบุฟเฟต์ต่างๆ
48. กระโดดแทรมโพลีน
การกระโดดบนแทรมโพลีน เครื่องเล่นสปริงบอร์ดสุดมัน เป็นกิจกรรมออกกำลังกายที่ช่วยเสริมทักษะของเด็กๆ อาจจะซื้อหาไว้ที่บ้านสักอัน หรือออกไปเล่นที่สนามแทรมโพลีนใกล้บ้านก็ได้
49. เล่นหาของในกระบะทราย
เราสามารถซ่อนของเล่นมากมายไว้ในกระบะทราย แล้วให้เด็กๆ ช่วยกันหา โดยอาจจะใช้ลูกบอลที่มีตัวเลขหรือตัวอักษร บล็อกรูปร่างต่างๆ หรือของเล่นรูปไข่ที่มีสีหน้าแตกต่างกันก็น่ารักสุดๆ ลองขอช่วยคุณพ่อให้ทำกระบะทรายขึ้นเอง จะทำให้ช่วยประหยัดเงินได้
50. สร้างพื้นที่สำหรับเด็ก
ให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่ส่วนตัวในการทำกิจกรรมต่างๆ ตามจินตนาการ โดยทำเป็นกระโจมเล็กๆ ไว้ในห้องหรือมุมใดมุมหนึ่งของบ้าน แล้วนำผ้าม่านเก่า หมอนอิง และกล่องเก็บของมาจัดตกแต่งเข้าด้วยกัน
51. เก็บผลไม้
ชวนกันเก็บผลไม้ใส่ตะกร้าขนาดใหญ่ แล้วให้ช่วยกันนับจำนวนแยกใส่ตะกร้าอีกใบของแต่ละคน หรือสอนให้แยกผลไม้สุกกับดิบออกจากกันก็ได้
52. ฝึกพับกระดาษแบบญี่ปุ่น
นำกระดาษหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารเก่ามาใช้หัดพับกระดาษแบบญี่ปุ่น (Origami) ที่สามารถพับทบกันเป็นรูปสัตว์น่ารักต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย กิจกรรมแสนเพลิดเพลินนี้จะช่วยเพิ่มพัฒนาการด้านความคิดสร้างสรรค์ สมาธิ และการแก้ปัญหาให้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
53. ฝึกงาน DIY กับคุณพ่อ
ลูกๆ มักจะสงสัยว่าคุณพ่อนั้นไปขลุกตัวทำอะไรอยู่ในโรงรถและสนามหลังบ้าน ดังนั้นเรามาใช้โอกาสนี้สอนให้เด็กๆ ได้เรียนรู้วิธีประดิษฐ์และซ่อมแซมสิ่งของต่างๆ กันดีกว่า
54. หัดเล่นดนตรี
ลูกของเราอาจจะเป็นแชมป์รายการ The Voice คนต่อไปก็ได้ใครจะไปรู้ เพราะนักร้องส่วนใหญ่ก็เริ่มต้นพัฒนามาจากการเล่นกีตาร์หรือเครื่องดนตรีต่างๆ นี่ล่ะ
55. เล่นคริกเก็ตชายหาด
สร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัวด้วยการใช้เวลาเล่นคริกเก็ตด้วยกันที่ชายหาดเวลาไปเที่ยวทะเล การเล่นกีฬาคริกเก็ตยังช่วยส่งเสริมสายตาให้ทำงานประสานกันได้ดีและช่วยพัฒนาสมรรถภาพทางร่างกายอีกด้วย หรืออาจจะเลือกเล่นกีฬาอื่นก็ให้ประโยชน์เช่นเดียวกัน
56. จัดห้องนอนใหม่
ถ้าคิดจะจัดห้องนอนใหม่ให้เด็กๆ ในช่วงที่ยังเปิดเทอมอยู่คงจะวุ่นวายน่าดู ถึงเวลาปิดเทอมแล้วเรามาช่วยกันออกไอเดียจัดห้องนอนครั้งใหญ่กันดีกว่า
57. จัดสนามมินิกอล์ฟ
เพิ่มความสนุกในสนามมินิกอล์ฟของเด็กๆ ด้วยการจัดวางประดับประดาด้วยธงสีสันสดใส ของเล่น หรืออะไรก็ตามที่หาได้ในบ้าน
58. ปั้นแป้งโดว์หรือดินน้ำมัน
การได้เฝ้าดูเด็กๆ ตั้งอกตั้งใจปั้นแป้งหรือดินน้ำมันออกมาเป็นรูปทรงต่างๆ ตามจินตนาการ จะทำให้ได้เห็นใบหน้าของเขาว่าน่ารักและมีความสุขมากขนาดไหน
59. เล่นโรลเลอร์สเก็ต
โรลเลอร์สเก็ตเป็นกีฬาสุดเท่ที่เล่นได้อย่างสนุกสนาน ยิ่งยามเช้าที่อากาศดีๆ นั้นเหมาะกับการเล่นสเก็ตไปให้ทั่วทั้งหมู่บ้านเป็นที่สุด
60. เล่นซ่อนหา
เด็กทุกวัยชอบความรู้สึกตื่นเต้นเวลาเล่นซ่อนหา และเล่นได้อย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย
ปิดเทอมสร้างสรรค์ 100 กิจกรรมหรรษา [ตอนที่2]
ปิดเทอมสนุกแน่ แค่ชวนสมาชิกในบ้านใช้เวลาร่วมกันทำกิจกรรมง่ายๆ ได้ประสบการณ์ แถมไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลือง เสียสตางค์มากมายเลย ไปดูกันดีกว่าว่า… ปิดเทอมนี้ทำอะไรดี?
21. เปิดเนิร์สเซอรีมด
ทำฟาร์มมดของเล่น โดยใช้ขวดโหลหรือกระปุกพร้อมฝาปิด 2ใบ ต่อสายเข้าหากัน ใบใหญ่ใช้ทำเป็นรังมด ส่วนอีกใบที่เล็กกว่าให้ใส่น้ำตาลหรือขนมปังเพื่อเป็นอาหารของมด นอกจากจะเป็นกิจกรรมยามว่างแล้ว เรายังได้เห็นวงจรชีวิตและการทำงานของมดอีกด้วย
22. สนุกกับด่านอุปสรรคในบ้าน
สร้างด่านกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะร่างกายเหมาะกับวัย และจัดไว้หลายอย่างให้เขาเลือกเล่น เช่น เขาวงกต อุโมงค์ ฯลฯโดยใช้วัสดุที่มีความปลอดภัยและหาได้ง่าย อย่างริบบิ้นหรือเชือก
23. ทายชื่อตัวการ์ตูน
หาดาวน์โหลดเสียงของตัวการ์ตูนชื่อดังต่างๆ นำมาทายเล่นกัน เหมาะสำหรับวันว่างที่อยากพักผ่อนอยู่กับบ้าน แต่ก็ได้สนุกสนานไปกับการ์ตูนที่เด็กๆ โปรดปราน
24. เล่นทดลองวิทยาศาสตร์
เด็กทุกเพศทุกวัยมักจะตื่นเต้นหลงใหลไปกับพลังแห่งวิทยาศาสตร์ ดังนั้นเรามาเล่นทำการทดลองง่ายๆ จากสิ่งของที่มีอยู่แล้วกันดีกว่า เช่น ประดิษฐ์ของเล่นทำเสียงไก่ขันจากแก้วน้ำ ทดสอบเรื่องทฤษฎีหัวลูกศร หรือทดลองผสมนมกับโคล่า ฯลฯ
25. เที่ยวสวนสัตว์
ถึงจะฟังดูแสนธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ แต่การไปเที่ยวชมฟาร์มหรือสวนสัตว์ก็มีกิจกรรมสนุกๆ ให้เราทำอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นขี่ม้า ให้อาหารสัตว์ หรือแม้แต่เพลินไปกับการเฝ้าดูฝูงเป็ดเดินเข้าแถวเป็นระเบียบ แล้วกระโดดลงน้ำ
26. เยี่ยมสถานสงเคราะห์สัตว์
พาเด็กๆ ไปเยี่ยมสุนัข แมว หรือสัตว์อื่นๆ ที่ศูนย์พักพิงสงเคราะห์สัตว์ โดยให้ความช่วยเหลือต่างๆ และอาจจะร่วมทำกิจกรรมการดูแลที่ทางบ้านสงเคราะห์มีจัดบริการให้ตามความเหมาะสม
27. พาน้องหมาไปทะเล
เด็กๆ และสุนัขส่วนใหญ่มักจะชอบเล่นน้ำทะเลเหมือนกัน ดังนั้นเรามาหาเวลาพาพวกเขาไปเที่ยวเล่นพักผ่อนบนหาดทรายแสนสวยกันดีกว่า
28.
เด็กๆ กับเหล่าคุณตาคุณยายอาจจะเข้ากันได้ดีและชอบในเรื่องที่เหมือนกันก็ได้ อย่างเช่น เรื่องการอ่านหนังสือและดนตรี การให้โอกาสพวกเขาได้มีส่วนร่วมในการดูแลใส่ใจผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่ดีมากเลยล่ะ
29. เล่นเกมแข่งกัน
ขอกระดานไวท์บอร์ดกับปากกามาเล่นเกมตอบคำถามหรือเกมสะกดคำกัน งานนี้คุณแม่อย่าลืมเตรียมขนมและสติ๊กเกอร์เป็นรางวัลให้ผู้ชนะด้วยล่ะ
30. จดบันทึกการเดินทาง
ยามเดินทางไปท่องเที่ยว ลองชักชวนกันเขียนบันทึกสิ่งแปลกใหม่ที่ได้พบเจอ เช่น ต้นไม้หรือสัตว์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และนำพวกหนังสือนิตยสารเก่าพกพาไปด้วย เพื่อจะได้ตัดภาพต่างๆ มาบรรยายเพิ่มเติมในสมุดบันทึกเล่มนี้
31. เล่นเกมทลายน้ำแข็ง
เกมนี้เหมาะสำหรับเด็กประมาณ 4-8 ขวบจะต้องชอบอย่างแน่นอน โดยเริ่มจากผสมน้ำกับสีผสมอาหารในภาชนะสี่เหลี่ยม เลือกของเล่นชิ้นเล็กๆ อย่างรถหรือหุ่นยนต์มาใส่ในกล่อง จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นจนกลายเป็นน้ำแข็ง โดยเราจะให้เด็กๆ ช่วยกันหาวิธีทลายน้ำแข็ง เพื่อนำของเล่นออกมาให้ได้
32.
เล่นเกมเรียงซ้อนแก้วแบบต่างๆ แข่งกัน สนุกสนานได้ทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง
33. เล่นแบดมินตัน
ปิดเทอมทั้งที อย่ามัวแต่นอนเอกเขนก ชวนกันออกไปเล่นแบดมินตันที่สนามหลังบ้านให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ทั้งยังช่วยเสริมสร้างความกระชับ ยืดหยุ่น และความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออีกด้วย
34. ร้องคาราโอเกะที่บ้าน
เมื่อรู้สึกเบื่อๆ หรือมีเรื่องเสียใจ เรามาจัดปาร์ตี้ร้องเพลงคาราโอเกะปลอบใจเด็กๆ กันดีกว่า โดยเราอาจจะประดิษฐ์เหรียญน่ารักๆ ขึ้นมาไว้ให้ลูกใช้ขอเพลง เมื่อดาวน์โหลดเพลงเสร็จแล้วก็มาเริ่มสนุกกันเลย
35. เต้นซุมบ้า
โหลดวีดีโอสอนเต้นซุมบ้าสนุกๆ จากอินเทอร์เน็ต แล้วปล่อยให้ลูกได้เต้นรำออกกำลังกายยามที่คุณแม่มีงานบ้านมากมายต้องจัดการให้เสร็จ
36. เที่ยวสวนสนุกและสวนพฤกษศาสตร์
คุณอาจจะเคยพาลูกไปเที่ยวสวนสนุกและสวนพฤกษศาสตร์มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าเด็กๆ ก็ยังคงรู้สึกตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอเมื่อได้ไปพบเห็นต้นไม้หรือดอกไม้พื้นเมืองพันธุ์แปลกใหม่ รวมไปถึงเครื่องเล่นตื่นเต้นหวาดเสียวต่างๆ ด้วยเช่นกัน
37. ก่อปราสาททราย
เด็กทุกวัยไม่เบื่อที่จะเล่นก่อปราสาททราย เพราะไม่ว่าเล่นกี่ครั้งก็ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับจินตนาการ สร้างสรรค์ปราสาทแบบใหม่ๆ ได้ไม่มีที่สิ้นสุด
38. เล่นต่อขนมลูกกวาด
ก่อนจะรับประทานลูกกวาด ลูกอม หรืออมยิ้ม เราเอามาเรียงต่อเล่นกันดีกว่า ด้วยสีสันรูปร่างต่างๆ ทั้งรูปทรงวงกลม รูปทรงไม้เท้า เม็ดถั่ว แผ่นช็อกโกแลต จึงนำมาต่อกันได้หลายแบบเลยนะ
39. ทายชื่อสถานที่
หาดาวน์โหลดรูปภาพสถานที่สำคัญหรือธงชาติต่างๆ มาเปิดเป็นภาพสไลด์โชว์บนจอโทรทัศน์ไว้เล่นเกมทายเล่นกัน
40. ช่วยคุณพ่อล้างรถ
อย่าคิดเชียวว่ากิจกรรมล้างรถจะสนุกได้ยังไง รับรองว่าเด็กๆ สนุกสนานได้แน่นอน ไม่ว่าจะเล่นฟองสบู่ หรือแย่งฉีดน้ำสายยางใส่กัน เรียกว่ายิ่งเลอะเทอะก็ยิ่งสนุก
ปิดเทอมสร้างสรรค์ 100 กิจกรรมหรรษา [ตอนที่1]
ปิดเทอมสนุกแน่ แค่ชวนสมาชิกในบ้านใช้เวลาร่วมกันทำกิจกรรมง่ายๆ ได้ประสบการณ์ แถมไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลือง เสียสตางค์มากมายเลย ไปดูกันดีกว่าว่า… ปิดเทอมนี้ทำอะไรดี?
1. สวมบทบาทเชฟรุ่นจิ๋ว
หัดทำอาหารง่ายๆ อย่างเช่น พิซซ่า ยิ่งถ้ามีเพื่อนหลายคนมาเล่นสนุกสนานด้วยกันก็ยิ่งดีใหญ่ โดยจัดแข่งขันกันว่าใครจะทำได้เจ๋งที่สุด โดยให้คุณแม่เป็นผู้ตัดสิน การได้ลองทำอาหาร ปั้นแป้งพิซซ่าแบบนี้นอกจากจะทำให้ได้ปลดปล่อยพลังจนเหนื่อยสุดๆ แล้วยังใช้เงินไม่เยอะ ทั้งยังได้โบนัสเป็นอาหารมื้อเย็น ประหยัดแรงคุณแม่ไปอีกต่างหาก
2. พาลูกเที่ยวตลาด
วันว่างปิดเทอมทั้งทีพากันออกไปสูดอากาศไกลบ้านสักหน่อย อาจจะเป็นต่างจังหวัดหรือนอกเมืองที่มีตลาดสวยๆ บรรยากาศดี น่าเดินเที่ยว ชมและชิม ทั้งสินค้าหัตถกรรม อาหารพื้นบ้านละลานตา และอื่นๆ อีกมากมาย เหมาะมากสำหรับวัยที่กำลังเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว
3. เล่นกิจกรรมผจญภัยในสวน
ทุกวันนี้มีสวนสาธารณะและอุทยาน สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายแห่ง ลองค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่ามีที่ไหนน่าสนใจ มีสนามเด็กเล่น พร้อมอุปกรณ์เครื่องเล่นน่าตื่นเต้นอยู่บ้าง แล้วออกไปเที่ยวผจญภัยทั้งครอบครัวกันเลย
4. ดูหนังด้วยกันที่บ้าน
เลือกเช่าหรือดาวน์โหลดภาพยนตร์เรื่องที่ชอบมาดูด้วยกันสิ แค่เตรียมป๊อปคอร์นและหรี่ไฟในห้องสักหน่อย ก็สนุกสนานได้อรรถรสเหมือนมีโรงหนังส่วนตัวที่บ้านแล้ว
5. ไปว่ายน้ำ
แค่ไปเล่นสระว่ายน้ำใกล้บ้านก็นับเป็นกิจกรรมสนุกสุดเหวี่ยงรับซัมเมอร์นี้ในราคาที่ย่อมเยาว์แล้ว หรือจะชวนกันไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยการไปเล่นสวนน้ำ หรือสระน้ำอุ่นในร่มสบายๆ ก็จะได้สนุกกันไปอีกแบบ
6. ขึ้นรถไฟไปเที่ยว
เด็กยุคนี้คงจะไม่ค่อยมีโอกาสได้นั่งโดยสารรถไฟเท่าไรนัก แต่รถไฟสุดคลาสสิกก็ยังคงเปิดให้บริการอยู่ในทุกทิศทั่วไทย ดังนั้นเรามาหาเวลาจัดทริปขึ้นรถไฟออกไปเที่ยวเปิดโลก ชมสองข้างทางกันเถอะ
7. สนุกกันวันซักผ้า
ในวันท้องฟ้าแจ่มใสที่คุณแม่ต้องยุ่งอยู่กับการซักผ้ากองโต เราก็เปิดโอกาสให้ลูกเข้ามาช่วยงานบ้านและเล่นเพลิดเพลินได้ในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการนับจำนวน แยกสี หรือพับเก็บเสื้อผ้า
8. เล่นบอร์ดเกม
เห็นทีคงจะสนุกจนลืมเวลาแน่นอนหากว่าได้ลองเล่นบอร์ดเกม หรือเกมกระดานที่หลายคนชื่นชอบ เช่น เกม Game of Life, Monopoly (เกมเศรษฐี), Scrabble (เกมต่อคำศัพท์), Cluedo (เกมนักสืบ)
9. สร้างสรรค์นิทานหุ่นมือ
ช่วยกันทำเจ้าตุ๊กตาหุ่นมือง่ายๆ ด้วยถุงเท้าเหลือใช้ โดยตัดยางยืดออก ตกแต่งเป็นหุ่นตุ๊กตาไว้คุยเล่นสวมบทบาทต่างๆ โต้ตอบกัน ช่วยส่งเสริมจินตนาการแต่งเรื่องราวได้อย่างอิสระ สนุกสนานสุดๆ
10. ปิกนิกในที่ไม่เคยไป
เปิดกางแผนที่ในย่านเมืองที่เราอยู่ แล้วให้ลูกเลือกกำหนดเป้าหมายในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน จากนั้นก็เตรียมมื้อกลางวัน แล้วออกไปสำรวจพื้นที่ผจญภัยกันเลย
11. ล่าสมบัติไปกับคนทั่วโลก
ไม่ว่าจะอยู่ที่แห่งไหนบนโลกก็ร่วมเล่นเกมล่าสมบัติสุดไฮเทคชื่อว่า Geocaching ได้ผ่าน GPS นำทาง ลองชวนทั้งครอบครัวมาเล่นด้วยกัน จะช่วยให้ได้เรียนรู้และสนุกไปพร้อมกันเลยทีเดียว
12. จัดประกวดภาพถ่าย
การถ่ายภาพเป็นกิจกรรมงานศิลปะที่ทั้งให้ประโยชน์และเพลิดเพลินมาก โดยหัดให้เด็กๆ ใช้กล้องถ่ายภาพในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองที่แปลกตาหรือน่าตลกสุดๆ เท่าที่จะทำได้ แล้วนำมารวบรวมเป็นอัลบั้มรูปปิดเทอม มาดูกันสิว่ารูปไหนจะเด็ดที่สุด
13. เล่าเรื่องรอบกองไฟ
หาเรื่องราวสนุกๆ จากอินเทอร์เน็ต นำมาผลัดกันเล่าในปาร์ตี้แคมป์ปิ้งที่สวนหลังบ้าน โดยอาจเปลี่ยนบรรยากาศมาจัดแคมป์ในช่วงกลางวันแทนก็ได้ (อย่าลืมศึกษากฎข้อบังคับเรื่องไฟในพื้นที่ก่อนจะเริ่มก่อไฟด้วยนะ)
14. ไขปริศนาพัฒนาสมอง
สารพัดเกมปริศนาต่างๆ เช่น เกมคำถามอะไรเอ่ย เกมภาพสามมิติ เกมต่อจิ๊กซอว์ ฯลฯ ออกแบบมาเพื่อช่วยลับสมอง ฝึกทักษะเรื่องการใช้เหตุผล อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ท้าทายจนวางมือไม่ลงกันเลยทีเดียว ค้นหาเกมสนุกเหล่านี้จากอินเทอร์เน็ตได้ไม่ยากเลยล่ะ
15. ชวนเด็กทำสวน
การได้เฝ้าดูทะนุถนอมให้พืชผักหรือดอกไม้เติบโตขึ้นมาจะช่วยสอนให้เด็กๆ มีความรักสิ่งแวดล้อม ทำให้เห็นคุณค่าของวงจรชีวิตในธรรมชาติ ถึงจะต้องสัมผัสดินเลอะเทอะบ้างก็ถือว่าคุ้มค่า
16. มาทำหน้ากากเล่นกัน
กิจกรรมสุดน่ารักสำหรับเด็กเล็กมาช่วยกันทำ เริ่มจากวาดรูปหน้าสัตว์ที่ชอบ อย่างเช่น สิงโต หมีแพนด้า ลิง กบ หรือวัว จากนั้นก็ระบายสีตามใจชอบ ใช้กรรไกรตัด แล้วร้อยเชือกเอามาใส่เล่นกันเลย
17. สร้างสมุดภาพการ์ตูน
ใช้วันว่างช่วงปิดเทอมมาเขียนการ์ตูนกันดีกว่า แค่ปรินต์รูปภาพตลกๆ ออกมาเติมแต่งเป็นการ์ตูนจากเรื่องราวในชีวิตจริง โดยใช้กรอบคำพูดแบบในการ์ตูนดูสิ
18. ประดิษฐ์บ้านจากกล่องนม
แปลงร่างกล่องนม กล่องน้ำผลไม้ หรือกล่องซีเรียลใช้แล้วมารีไซเคิล ประดิษฐ์ตกแต่งเป็นบ้านกล่องหลังน้อยๆ นำมาวางเรียงรวมกันสร้างหมู่บ้านจากกล่องสุดหรรษาไปเลย
19. แต่งนิทานก้อนหิน
วาดภาพละเลงสีเรื่องราวตัวละครมากมายลงบนหินก้อนเล็กๆ ด้วยจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัด โดยใช้สีอะคริลิกหรือปากกามาร์กเกอร์ วาดออกมาเป็นผลงานสุดน่ารักที่ไม่ซ้ำใคร
20. ปั่นจักรยานรอบเมือง
จูงจักรยานคันเก่งไปปั่นเที่ยวเล่นผจญภัยให้ทั่วละแวกบ้าน งานนี้ได้ทั้งความสนุกสนานและดีต่อสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงกันทั้งครอบครัว
รวมสถานที่ให้ลูกเที่ยวทั่วไทย
ปิดเทอมแล้ว ก็ถึงเวลาพาลูกเที่ยว ช่วงนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวตามต่างจังหวัดมากมาย ที่เด็กๆไม่ควรพลาด
เริ่มจากภาคเหนือ
ที่ จ.เชียงใหม่ มีทั้งสวนสัตว์เชียงใหม่, สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเชียงใหม่ซูอคาเรี่ยม, พิพิธภัณฑ์แมลงโลกและสิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติ, สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ, พิพิธภัณฑ์รถโบราณเชียงใหม่, สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม
ที่จังหวัดเชียงราย มีหอศิลป์จำนวนมาก ที่น่าไปเยือนที่สุด เห็นจะเป็นบ้านดำ จ.เชียงราย สถานที่รวมงานของ อ.ถวัลย์ ดัชนี นอกจากนี้ยังมี ไร่ชาฉุยฟง และพิพิธภัณฑ์อูบคำ ส่วนที่ จ.ลำปาง มีพิพิธภัณฑ์ซากดึกดำบรรพ์ ธรณีวิทยา และธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี ลำปาง และศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ลำปาง นอกจากนี้ยังมีสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืด จ.พะเยา และหอศิลป์ริมน่าน จ.น่าน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เริ่มจาก จ.ขอนแก่น มีพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง, พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพ.สธ. – มหาวิทยาลัยขอนแก่น และบึงแก่นนคร มาที่ จ.นครราชสีมา มีอุทยานผีเสื้อ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และพิพิธภัณฑ์โชคชัย ปากช่อง ที่ จ.หนองคาย มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจังหวัดหนองคาย
นอกจากนี้ยังมีศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้จังหวัดบุรีรัมย์ ศูนย์คชศึกษา จ.สุรินทร์ หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม จ.นครพนม พิพิธภัณฑ์ผีตาโขนวัดโพนชัย จ.เลย พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง จ.อุดรธานี พิพิธภัณฑ์สิรินธร (พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว) อ.สหัสขันธ์ กาฬสินธุ์ และศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อการศึกษาร้อยเอ็ด
ภาคใต้
เมืองใหญ่อย่าง จ.สงขลา มีที่เที่ยวสำหรับเด็กๆหลายแห่ง ทั้งพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา ๕๐ พรรษา สยามบรมราชกุมารี อ.หาดใหญ่, พิพิธภัณฑ์ระโนด ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมและสวนบูรพาจารย์, พิพิธภัณฑ์มายากล อ.หาดใหญ่, สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำสงขลา และพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา สถาบันทักษิณคดีศึกษา
ส่วนที่ จ.ภูเก็ต มีสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต Phuket Aquarium, พิพิธภัณฑ์เพอรานากัน และพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ จ.พังงา มีพิพิภัณฑ์กลางแจ้งธรณีพิบัติภัยสึนามิ, ศูนย์วัฒนธรรมชาวเลบ้านทุ่งหว้า, ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา และศูนย์ศึกษาวิจัยศิลปกรรม วัฒนธรรมและประเพณีแห่งอันดามัน จังหวัดพังงา นอกจากนี้ภาคใต้ยังมีศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราช, ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน จ.กระบี่, หอวัฒนธรรมภาคใต้ สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นขุนละหาร จ.นราธิวาส
ภาคกลางและภาคตะวันออก
ที่ จ.ชลบุรี มีทั้งพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา, พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย สัตหีบ, พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมี (Teddy Island Pattaya)พัทยา, อันเดอร์วอเตอร์เวิลด์ (Underwater World) พัทยา และอุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
นอกจากนี้ยังมีสวนน้ำอวกาศ จ.ชัยนาท, พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี จ.พิษณุโลก, สวนพฤกษศาสตร์พระแม่ย่า จ.สุโขทัย ,สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสุพรรณบุรี, หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.ฉะเชิงเทรา, พิพิธภัณฑ์ซับจำปา จ.ลพบุรี, ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำสมุทรสาคร, ศูนย์การเรียนรู้เมืองฉะเชิงเทรา บ้านสวนลุงฉลวย จ.จันทบุรี และวูดแลนด์ เมืองไม้ จ.นครปฐม
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อินทร์บุรี สิงห์บุรี
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อินทร์บุรี เดิมเป็นพิพิธภัณฑ์ของวัดโบสถ์ ก่อตั้งโดยอดีตเจ้าอาวาส(พระเทพสุทธิโมลี) ได้รวบรวมจัดเก็บรักษาโบราณวัตถุศิลปวัตถุที่มีคุณค่า ในปี พ.ศ.2496 ได้รับการจัดตั้งเป็นสาขาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ประจำอำเภออินทร์บุรี และเนื่องจากอาคารไม้หลังเก่าไม่เพียงพอสำหรับสำหรับจัดเก็บรักษาโบราณวัตถุที่มีจำนวนมากขึ้น จึงได้ก่อสร้างอาคาร ตึกเพิ่ม ดุริยางคกูร เพิ่มอีก 1 หลัง และปรับปรุงศาลาการเปรียญหลังเดิม เป็นอาคารจัดแสดง
ต่อมา พ.ศ.2514 อดีตเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ เมื่อครั้งมีสมศักดิ์เป็นพระราชเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี ได้ให้ความอนุเคราะห์สนับสนุนกรมศิลปากรในการดำเนินงานปรับปรุงการจัดแสดงให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ และได้เปลี่ยนจากสาขาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินทร์บุรี เป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อินทร์บุรี ในปี พ.ศ.2516
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยพวน วัดกุฎีทอง สิงห์บุรี
กลุ่มไทยพวน หรือลาวพวน เป็นอีกกลุ่มชนหนึ่งที่อพยพจากดินแดนลาวตอนบนเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเพราะการสงครามในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์หลายครั้งหลายคราว กลุ่มคนพวนถูกกวาดต้อนเข้ามาในไทย และเมื่อนานเข้าก็กระจัดกระจายไปทั้งถิ่นฐานในหลายจังหวัดของประเทศไทย จนกลายเป็น ไทยพวนบางแห่งวัฒนธรรมประเพณีตลอดจนภาษาได้ถูกกลืนกลายไปกับคนพื้นถิ่นหมดแล้ว แต่บางกลุ่มก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมของกลุ่มตนเองไว้อย่างเหนียวแน่น บางกลุ่มก็กำลังรวบรวมองค์ความรู้ที่ยังคงอยู่ในชุมชน เพื่อสืบทอดให้ลูกหลานของตนเองต่อไป เหมือนอย่างเช่นศูนย์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยพวน วัดกุฎีทอง ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรีแห่งนี้